การเดินทางข้ามด่าน ฮ่องกง-มาเก๊า-จูไห่ ![]()
ทริปนี้บินจากเชียงใหม่-ฮ่องกง-ข้ามไปมาเก๊า (เที่ยวจูไห่แบบไปเช้าเย็นกลับ) พักที่มาเก๊า 3 คืน-กลับมาฮ่องกง พักที่ฮ่องกง 2 คืน-กลับเชียงใหม่ รวม 6 วัน 5 คืน



สายการบิน เราบินตรงเชียงใหม่-ฮ่องกง ด้วยสายการบิน HK Express เป็นสายการบิน low cost อยากได้อะไรจ่ายเพิ่ม ที่สำคัญคิดกระเป๋าเป็นใบไม่สามารถหารเฉลี่ยน้ำหนักได้ กระเป๋าที่จะถือขึ้นเครื่องเก็บในเคบินก็ต้องซื้อค่ะ และน้ำหนักห้ามเกินที่ระบุค่ะ (อ่านดีๆเลยค่ะ)ดีตรงเวลาบินไฟลท์ไปฮ่องกง 10:30 น. ขากลับก็ 16:30 น. เวลาดี นั่งจากเชียงใหม่ 2 ชั่วโมงนิดๆก็ถึงไวและประหยัดเวลามากค่ะ
แต่ถ้าไปแอร์เอเชีย เครื่องออก 6 โมงเช้า ต้องตื่นตี 3 ลูกไม่ไหวค่ะ


สนามบินฮ่องกง Chek Lap Kok มาถึงไม่ต้องเขียนใบเข้าเมือง (Arrival card) Immigration ตรวจเข้าเมืองปกติ (มีถามนิดหน่อยว่าลูกชื่ออะไร เกิดวันที่เท่าไร
) จากนั้นก็ออกมารับกระเป๋า Declares ที่นี่ไม่เข้มงวดค่ะ เอาขนม ยา อาหารผ่านเข้าสบายๆจะต่างจากจีนแผ่นดินใหญ่นะคะ เมื่อออกมาจาก Arrival Gate จะมีร้านอาหาร-ร้านค้าหลายร้านเผื่อใครหิว

การข้ามด่านฮ่องกง มาเก๊า จูไห่มีทั้งนั่งรถและนั่งเรือ ซึ่งมีหลายด่านให้เลือก พักที่ไหนใกล้ด่านไหนก็ไปที่นั่นได้เลยค่ะ แต่วันนี้จะมารีวิวแค่ด่าน Hongkong-Zhuhai-Macao Bridge (HZMB) และด่าน Gongbei สองด่านนี้นะคะ

ด่าน HZMB ที่ฮ่องกงเป็น Hongkong HZMB Port ที่นี่คือสะพานเชื่อมระหว่างฮ่องกง-มาเก๊า-จูไห่ ซึ่งเป็นสะพานข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในโลก เพิ่งเปิดบริการได้ไม่นาน ซึ่งจะมีแค่รถบัสและรถยนต์ที่ได้รับอนุญาตให้วิ่งเท่านั้นถึงจะใช้สะพานนี้ได้ ถนนเลยโล่งมากๆค่ะ
เมื่อออกจากสนามบินฮ่องกง เราเดินตามป้าย Taxi เลือกแท็กซี่แถวสีฟ้าที่เขียนว่า Lantau บอกไปด่าน HZMB ใช้เวลาประมาณ 5-10 นาทีก็ถึงด่านค่ะ หรือจะนั่งรถเมล์สาย B4 มาลงก็ได้ค่ะ


เมื่อมาถึงก็เข้าแถวผ่าน ตม. ขาออกแล้วเดินเข้าไปซื้อตั๋ว ที่นี่จะเปิดตลอด 24 ชั่วโมง ช่วง 06:00-24:00 ตั๋วผู้ใหญ่ 65$ เด็ก 33$ ส่วนช่วง 00:00-05:59 ตั๋วผู้ใหญ่ 70$ เด็ก 35$ กระเป๋าลากขึ้นรถได้เลยค่ะ 1 คนต่อ 1 ใบ น้ำหนักไม่เกิน 20 กิโลกรัม ขนาด 76x51x32 cm แต่เหมือนจะสุ่มตรวจไม่เคยโดนเรียกอะไรนะคะ แค่สแกนกระเป๋าก็ผ่านแล้วค่ะ




ก่อนขึ้นรถเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยและสามารถซื้อขนมปัง ของเล่นไว้เล่นระหว่างนั่งบัสไปแก้เบื่อได้นะคะมี 7-11 เล็กๆตรงนี้ จากนั้นเดินไปขึ้นรถจะมีพนักงานกวักมือเรียกขึ้นว่าคันไหนจะออก ตั๋วไม่ระบุที่นั่ง มาก่อนเลือกก่อน ถ้าเต็มก็รอคันต่อไปซึ่งรถมีเยอะรอไม่นาน กระเป๋าใหญ่ให้วางใต้ท้องรถ ใบเล็กวางบนรถได้มีกล้องวงจรปิดให้ดู มีที่ชาร์จแบตให้ รถจะจำกัดความเร็ว นั่งชมวิวสวยๆค่ะ
เส้นทางจะมีช่วงสะพานข้ามทะเลและลอดอุโมงค์ใต้ทะเล นั่งประมาณ 45 นาทีจะถึงอีกฝั่ง Macao HZMB Port รถบัสแบบนี้คือ Shuttle Bus ของ HZM bus ค่ะ





จริงๆรถบัสจะมี 2 แบบคือ Shuttle bus จะนั่งข้ามสะพานเท่านั้น อีกแบบจะเป็น Cross-Boundary Coach ซึ่งอันนี้รับส่งหน้าโรงแรม นั่งรถรับตามโรงแรมต่างๆ ซึ่งต้องจองล่วงหน้าแล้วพอถึงด่านจะต้องเดินลงมาผ่าน ตม. แล้วกลับมานั่งรถคันเดิมเพื่อเข้าเมือง (เราเคยนั่งจาก Venetian Hotel ไปลง Prince Edward ก็สะดวกคนละแบบไม่ต้องหารถไปด่านข้ามเขตเอง)

พอไปถึงด่านฝั่งมาเก๊า (Macao HZMB Port) เดินลงรถแล้วจะมีทางแยกให้เดิน เราไปมาเก๊าก็ออกทางมาเก๊า ส่วนใครจะไปจูไห่ก็เดินไปอีกฝั่งนะคะ แล้วก็ผ่าน ตม.ฝั่งขาเข้าของใครของมันอีกรอบเป็นอันข้ามแดนเรียบร้อย

ด่าน HZMB นี้จะอยู่ฝั่งเมืองมาเก๊าค่ะ มีรถบริการรับ-ส่งไปโรงแรมต่างๆ ให้อ่านตามป้ายเลยค่ะ ซึ่งรถประเภทนี้จะเป็นรถบริการฟรี ไม่ได้มีตลอด 24 ชั่วโมงนะคะ ถ้ารถหมดก็นั่งแท็กซี่ปกติได้เลยค่ะ



ด่าน Gongbei ข้ามไปจูไห่

การจะข้ามไปจีน จูไห่มีหลายด่านค่ะ แต่เราพักในเกาะมาเก๊าซึ่งใกล้กับด่านนี้และมีรถบัสของโรงแรมบริการฟรีก็จัดไปที่นี่ค่ะ
แต่ถ้าใครพักแถวเกาะ Taipa-Cotai-Coloane ไปด่าน Hengqin ก็จะใกล้สวนสนุกมากกว่าค่ะ แต่ด่านนี้คนนิยมมาซื้อของราคาถูกอารมณ์เดินแม่สาย ข้ามเส้นแบ่งก็ถึงฝั่งจูไห่ มี Port Plaza ให้เที่ยว ของถูกของก็อปเพียบ
แม่ไม่ค่อยสนับสนุนอย่าละเมิดดีกว่าค่ะ
มาถึง Macao Gongbei Port ก็สแกนกระเป๋าแบบสบายๆ จากนั้นเดินตามทางเข้าแถวตรวจพาสปอร์ตที่ ตม. ขาออกมาเก๊าก่อนนะคะ จากนั้นเดินไปเรื่อยๆก็ถึงตม. ฝั่งขาเข้าของจีน ตรงนี้ต้องกรอกใบ Arrival card ก่อนค่ะ เขียนง่ายๆว่า No Visa และพักที่ Chimelong Ocean Park ตม. ไม่ดูอะไรมากก็ปั๊มเข้าเมืองเลยค่ะ ผ่านง่ายมากๆ
จากนั้นออกมาจากออฟฟิศหน้าด่าน โอ้โห ใหญ่มากๆตึกรามบ้านช่องแบบสะอาด ทันสมัยมาก สถาปัตยกรรมไม่เหมือนจีนที่เคยวาดภาพไว้เลยค่ะ สถานีรถไฟความเร็วสูงไฮเทคสุดๆ แต่กลิ่นบุหรี่ลอยมาเนืองๆ
ด้านใต้ดินจะเป็นแหล่งช้อปปิ้งของราคาถูกใหญ่มาก เราเดินหันหน้าไปทางถนนเดินออกขวามือไปจุดขึ้นแท็กซี่ เพื่อไปสวนสนุกนะคะ คนจีนข้ามกันเยอะที่สุดละค่ะ ดีที่มีช่องเฉพาะคนจีนคิวเลยไม่ยาวมากค่ะ ขากลับก็เหมือนเดิมค่ะเดินข้ามง่ายมากๆ






ข้อมูลอื่นๆ
รถสาธารณะ ฮ่องกง ใช้ Uber จูไห่ ใช้ Didi ส่วนมาเก๊าไม่มีใช้แท็กซี่ทั่วไป แต่จะมี Shuttle bus ของโรงแรมบริการแบบไม่มีค่าใช้จ่าย หรือนั่งรถเมล์ก็เตรียมเงินให้พอดี ขึ้นแล้วหยอดลงกระปุกก็เรียบร้อยค่ะ ตลอดสาย 6 MOP เด็กราคาเท่าผู้ใหญ่
เงินสดรับเกือบทุกที่ จีนใช้เงินหยวน ฮ่องกงใช้ดอลล่าร์ฮ่องกง ส่วนมาเก๊าใช้ MOP ค่าเงินไม่เท่ากันนะคะ
#ฮ่องกง : รับแต่ฮ่องกงไม่รับเงินหยวนและมาเก๊า บัตร Travel card มีเรทดอลล่าร์ฮ่องกงให้แลก เลยใช้ง่าย
#มาเก๊า : รับทั้งฮ่องกง มาเก๊าและหยวน บางร้านให้เรต 1:1:1 จะขาดทุนค่ะ บางทีรับฮ่องกงทอนเป็นมาเก๊าอีก แต่บางร้านที่แฟร์จะคำนวณราคาสินค้าให้ถูกลง และรับ Alipay
#จูไห่ : รับแต่หยวน และควรมี Alipay ติดตัวเพราะระบบสั่งอาหารต่างๆในสวนสนุกทำผ่านหน้าจอหมดค่ะ ซึ่งต้องสแกนจ่าย Alipay
ดังนั้นมีเงิน 3 แบบในกระเป๋าเวลาหยิบคือจะสับสนมาก บางร้านให้เรต 1:1:1 ซึ่งถ้าใช้ในมาเก๊าเราจะขาดทุน บางทีรับฮ่องกงไปแต่ทอนเป็นมาเก๊าอีก ต้องถามก่อนจ่ายค่ะ แต่การมี Alipay ติดตัวคือดีที่สุดค่ะ
ที่ด่าน Macao HZMB Port มีบริการ Direct Bus ไปสนามบินฮ่องกงด้วยค่ะ เป็น Airport Direct Bus จากฝั่งมาเก๊าโหลดกระเป๋าได้เลยค่ะ

เชียงใหม่-มาเก๊า ไม่มีบินตรงค่ะ เมื่อก่อนเคยมีของ Airasia ลุ้นให้มีอยู่ค่ะ
ฮ่องกง มาเก๊าเป็นเขตบริหารพิเศษ จูไห่คือจีนแผ่นดินใหญ่ ช่วงนี้ไม่ต้องขอวีซ่าเข้าจีน ดังนั้นยิ่งสบายข้ามไปมาหากันได้ง่าย ใช้แค่พาสปอร์ต สามที่นี้จะอยู่ติดกันสามารถวางแผนเที่ยวข้ามไปมาได้ ใกล้ๆสะดวก ใครเที่ยวไม่จุใจ ข้ามไปเที่ยวเซินเจิ้นอีกที่ได้ต่อ
เดินช้อปปิ้งในสนามบินฮ่องกงเพลินมากค่ะ ช้อปสนุก มีร้านแบรนด์เนม ขนมอร่อยๆ ร้านอาหาร ร้านค้าน่าซื้อเยอะมากไม่ต้องเที่ยวที่ไหนค่ะ มาดิวตี้ฟรีในนี้คือดีสุดละ
ใครเลือกพักมาเก๊าที่ฝั่ง Taipa และไม่เมาเรือมาลงที่ด่านท่าเรือ Macau Taipa Ferry Terminal ก็สะดวกเพราะด่านฝั่งฮ่องกงมีที่ Sheung Wan กับ Kowloon ให้เลือก หากพักในเกาะฮ่องกงหรือเกาลูน จะใกล้และสะดวกกว่าค่ะ







