◾️ Melbourne 2023 Day 4

วันนี้แม่แพลนเที่ยวเกาะฟิลลิป ดื่มด่ำกับบรรยากาศความสวยงามของธรรมชาติ บอกเลยว่าเป็นการเที่ยวที่ประทับใจมาก

วันที่ 4 ในเมลเบิร์นเด็กๆเริ่มปรับเวลาได้แล้ววันนี้เที่ยวเกาะฟิลลิป ซึ่งเป็นเกาะที่อยู่ทางตอนใต้เมลเบิร์น ต้องนั่งรถกว่า 2 ชั่วโมง เด็กๆได้เจอสัตว์ เจอนก กระต่ายป่า จิงโจ้ วัลลาบี ที่อาศัยอยู่ในธรรมชาติอันอุดมสมบรูณ์ เด็กๆลุ้นกันมากว่าจะมีตัวอะไรแปลกๆโผล่หน้ามาให้เราดูบ้าง

การมาที่เกาะฟิลลิปบางคนขับรถมา หรือซื้อทัวร์แบบ One Day Trip ซึ่งมีหลายเจ้ามาก แต่ของเรามากันครอบครัวใหญ่เลยจองแบบ Private Tour ซึ่งเราเช่ารถตู้พร้อมคนขับ ดังนั้นสามารถกำหนดเวลาและสถานที่เที่ยวได้ค่ะ ซึ่งรถตู้นี้แม่ไปหาจาก Google เลยค่ะ ราคาอยู่ที่ 799 AUD รวมเข้าเกาะและมีน้ำดื่มให้บนรถ(ครั้งนี้คือขับอย่างเดียวจริงๆไม่มีแนะนำหรือพาเที่ยวอะไรนะคะ)

ส่วนโปรแกรมแม่เลือกเอง ทุกอย่างในเกาะมีค่าเข้าชมหมดนะคะ ดังนั้นมองหาบัตรแบบมัดรวมจะประหยัดได้มากกว่า แม่เข้าไปกดมาจาก Klook เป็นบัตรชม 4 ที่คือ ศูนย์อนุรักษ์โคอาล่า-เกาะฟาร์มเชอร์ชิล-พิพิธภัณฑ์แอนอาร์ติก ปิดท้ายด้วยพาเหรดเพนกวินที่เป็นไฮไลท์ของทริปวันนี้ ส่วนที่ไหนก่อน-หลังคนขับรถจะวางแผนให้ค่ะ ในทริปคนขับจะพาเราไปทานอาหารที่ร้าน Golden fly Fish & Chips ที่ Cowes Beach และขับในเส้นทางถนนเลียบชายฝั่งชื่อว่า The Blvd ที่สวยมากๆๆๆและมีสัตว์ให้ดูเยอะมากๆเลยค่ะ

เนื่องจากนกเพนกวินจะกลับบ้านหลังพระอาทิตย์ตกดินดังนั้นเราเลยออกจากโรงแรมตอน 10:00 น. เด็กๆตื่นสายได้ เก็บแรงไว้ลุยวันนี้ค่ะ นั่งรถมา 2 ชั่วโมงก็ถึงเกาะฟิลลิป ที่แรกที่ไปคือ

Koala Conservation Reserve – ศูนย์อนุรักษ์โคอาล่า จะมีนิทรรศการเล็กๆให้ดู มีเรื่องราวเนื้อหาของการอนุรักษ์หมีโคอาล่าให้ได้เรียนรู้กัน แต่ที่สนุกคือการเดิน Koala Boardwalk ชมหมีโคอาล่า ส่องกันใหญ่ว่าจะเจอตรงไหนบ้าง จริงก็สนุกนะคะ แต่ๆๆๆ แม่เห็นมีที่น่าสนุกกว่าอยู่ฝั่งตรงข้าม ชื่อ A Maze N Things Theme Park เสียดายเราไม่มีเวลานี่ขนาดมาแบบส่วนตัว อย่างกับชะโงกทัวร์ค่ะ ได้ดูแป๊บๆ ยังไม่หน่ำใจเลยป๊าโทรตามกลับยิกๆ

Churchill Island Heritage Farm– ที่นี่เป็นเกาะเล็กๆติดกับ Phillip สมัยแรกเป็นของเอกชนที่ทำเป็นฟาร์มแต่ตอนนี้นำกลับมาเป็นชองรัฐเรียบร้อยแล้วก็เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม บรรยากาศฟาร์มสุดๆ ทั้งมีให้เด็กๆรีดนมวัว ชมการต้อนแกะของสุนัขแสนรู้ น่ารักมากกกก โชว์การตัดขนแกะ โชว์การใช้แส้ของ cowboy ด้านในก็มีหมู กระต่าย ม้า วัว ไก่

และมีคาเฟ่เล็กๆให้ชมค่ะ ที่นี่สนุกและสวยมากๆ ตรงนี้แนะนำว่าควรมาค่ะเด็กๆชอบ

Antarctic Journey – เป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับแอนตาร์กติก จะมีนิทรรศการการสำรวจและวิจัยพื้นที่แอนตาร์ติก จำลองสภาพอากาศ ลม ความหนาวสุดขั้วมาให้เด็กๆได้ลองเข้าไปดู รวมถึงการใช้ชีวิตของบรรดาสัตว์ต่างๆว่าอยู่ในที่หนาวเหน็บแบบนี้ได้ยังไง ก็สนุกเพลินๆได้ความรู้ดีนะคะ แต่ถ้าเป็นเด็กเล็กแม่ว่าอาจน่าเบื่อหน่อยๆ ก็ไม่ต้องเข้าก็ได้ค่ะแต่ๆๆๆ

พื้นที่ด้านนอกสำหรับชมวิวคือต้องไป!! The Nobbies View Point ห้ามพลาดเลยค่ะ สวยมว๊ากกกก น่าจะเป็นที่มาของคำว่าอยากนั่งโง่ๆอยู่ริมทะเล 555+ คืออยากนั่งมองวิวนี้ไปนานๆ ดูสงบเพลินมาก โรแมนติกสุดๆ ควรมาตอนเย็นก่อนไปดูเพนกวินนะคะ แสงสวยมากค่ะ

Penguin Parade ไฮไลท์ของทริปนี้ค่ะ แนะนำว่าควรเป็นตั๋ว Plus แบบ Underground นะคะ เพราะ 1 อยู่ในห้องไม่หนาว 2 เหมือนเด็กๆกำลังดูอยู่ใต้ดิน มันจะอยู่ระดับสายตาเพนกวินพอดีค่ะ ตรงนี้มีตั๋วไม่เยอะค่ะแล้วก็เต็มไวมาก เราจองได้แค่ Plus ซึ่งจะอยู่ด้านบนอีกที ที่นั่งแบบมาก่อนได้ก่อนให้เลือกนั่งด้านขวามือนะคะ เพราะลักษณะการเดินของเพนกวินคือว่ายน้ำมาแล้วมาหยุดรอเพื่อนๆแป๊บนึงก็จะพากันเดินขึ้นเขามาทางขวาค่ะ ซึ่งน้องๆจะเริ่มกลับมาถึงบ้านช่วงหลังพระอาทิตย์ตกดิน

ที่นี่ไม่อนุญาตให้บันทึกภาพใดๆ เพราะเป็นการรบกวนสัตว์ เก็บไว้แค่ความทรงจำอย่างเดียวเลยค่ะ หากใครอยากได้ภาพเค้ามีให้ดาว์นโหลดได้ ที่สำคัญคือห้ามคุยกันเสียงดังและห้ามจับค่ะ

แต่ระหว่างรอเวลาสามารถถ่ายภาพได้และมีอาสาสมัคร มาบรรยากาศให้ความรู้ ที่นี่คือเพนกวินสีน้ำเงิน (Blue Penguin) เป็นเพนกวินที่ตัวเล็กที่สุด หลังสีฟ้าเพื่อหลบจากการล่าของนก ท้องสีขาวเพื่อให้ปลานักล่าคิดว่ามันคือท้องฟ้า เป็นการพรางตัวของเพนกวินค่ะ

ตอนเห็นน้องชุดแรกกลับบ้านแบบเห้ย!!! มันไม่เหมือนในจินตนาการอ่ะค่ะ น้องน่ารักปุ๊กปิ๊กมากกกก ตัวเล็กมากๆ เล็กเกินคาด อยากกระโดดเข้าไปกอด 555+ แค่ดูน้องเดินก็สนุกแล้วค่ะ น่ารักสุดๆๆๆๆๆ นี่เด็กๆเลยโดนน้องตกได้ตุ๊กตาเพนกวินกลับบ้านคนละตัว เด็กๆนั่งดูประมาณครึ่งชั่วโมงก็กลับค่ะ หนาวมาก ยิ่งดึกยิ่งหนาว แม่ก็ซื้อพวก Fish and Chips, Burgers ให้เด็กๆทานในรถเพราะคนขับรถเค้าจะขับยาวไม่แวะไหนเลยค่ะ