
ที่เซี่ยงไฮ้เป็นดิสนีย์แลนด์ที่ใกล้เมืองไทยอีกแห่งสร้างเป็นอันดับที่ 3 ของเอเชีย แห่งที่ 6 ของโลกค่ะ เพิ่งเปิดตัวตอน ปี 2016 นั่นเอง ยังใหม่ๆอยู่เลยค่ะ แถมยังใหญ่กว่าที่ฮ่องกงและญี่ปุ่นอีกนะคะ ได้ยินแบบนี้จดไว้ใน wishlist ว่าต้องพามาสักครั้งค่ะ


แต่ขึ้นชื่อว่าประเทศจีน สิ่งที่ห่วงในการมาเที่ยวคือ ห้องน้ำ ความสะอาด และการแซงคิว แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ ที่นี่ได้มาตรฐานดิสนีย์แลนด์ สะอาดมีระบบระเบียบ อาจมีแซงคิวนิดๆแต่ก็ไม่ถึงกับเสียบรรยากาศในการเที่ยว ห้องน้ำก็มีชักโครก ที่รองก้น มีกระดาษทิชชู่ให้ทุกห้อง ขยะสกปรกไม่เจอ ที่สำคัญคนไม่เยอะเท่าญี่ปุ่น ดังนั้นที่นี่ถือว่าน่าเที่ยวอยู่ค่ะ ติดเรื่องภาษาอังกฤษที่แทบไม่มีคนพูดเลย ขนาดในดิสนีย์แลนด์ยังหาพนักงานที่พูดภาษาอังกฤษแทบไม่มีเลยค่ะ ต้องใช้ google translate แทน (เราเปิด Roaming ค่ะเพราะจะได้ใช้งาน google-line-facebookได้)

เมื่อเราแพลนจะเที่ยวที่นี่อันดับแรกคือต้องหาตั๋วเข้าค่ะ เราซื้อตั๋วผ่านเวปโดยตรง (ไม่มีภาษาไทย) https://www.shanghaidisneyresort.com/en/ หรือจะโหลดแอพมาแล้วซื้อผ่านแอพก็ได้ค่ะ
ราคาตั๋ววันธรรมดากับวันหยุดจะไม่เท่ากัน ถ้าเด็กสูงไม่ถึง 100 cm เข้าฟรี ถ้าสูง 100-140 cm จะเป็นราคาตั๋วเด็ก ส่วนคนสูงวัยต้องอายุ 65 ขึ้นไป ซึ่งก่อนเข้าจะตรวจพาสปอร์ตด้วยค่ะว่าอายุเกิน 65 จริงไหม ชนิดตั๋วจะมีแบบ 1 วันและ 2 วัน ซึ่งถ้าเป็นตั๋ว 2 วันจะได้ลด 10% (แต่แนะนำว่าซื้อวันต่อวันดีกว่าเพราะวันแรกเดินเมื่อยมาก เผื่ออยากพักแล้วมาวันอื่นทีหลัง ซึ่งถ้าซื้อแบบ 2 วันต้องเป็น 2 วันติดกันเลย แถมต้องเป็นคนเดียวกันเพราะเค้ามีถ่ายรูปตอนเข้าด้วยค่ะ ว่าใบไหนของใครสลับไม่ได้ เห็นว่าป้องกันตั๋วผี
) ที่นี่ก็เหมือนที่อื่นถ้าจำนวนคนเข้าเต็มแล้วจะไม่เปิดให้ซื้อตั๋วเพิ่ม เวลาปิดเปิดสวนสนุกต้องเช็คเวลากันอีกทีค่ะ แต่ละฤดูจะเปิดไม่เท่ากัน

พอเราซื้อตั๋วเสร็จไม่ต้องพิมพ์ตั๋วให้ยุ่งยากค่ะ แค่พกพาสปอร์ตไปทางเข้าช่องปกติ เค้าจะพิมพ์ตั๋วออกมาให้ตรงนั้นเลยไม่ต้องต่อคิวอื่นให้ยุ่งยาก

วิธีเดินทางในเซี่ยงไฮ้ไม่ยากเพราะระบบรถไฟทั่วถึงสะดวกมาก กด google map มันก็จะหาทางไปให้ โดยนั่งรถไฟฟ้าไปสาย 11 ลงที่สถานี Disney Resort Station ออก Exit 1 รถไฟฟ้าที่นี่เหมือนบ้านเราค่ะ แถมราคาถูกกว่ามากกกกกก แต่ต้องสแกนกระเป๋าก่อนทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย


พอไปถึงที่นี่จะมีโซน Disneytown ซึ่งเดินได้ฟรี เป็นร้านอาหารดังๆ ร้านขายของ ร้าน Disneyshop และ lego shop ซึ่งใหญ่มากๆ ส่วนนี้เราปล่อยให้ปะป๊าผู้ไม่อินกับดิสนีย์แลนด์นั่งรอตรงนี้ค่ะ



ส่วนเด็กๆถึงเวลาตะลุยสวนสนุกแล้ว ครอบครัวเราเน้นเที่ยวสำหรับเด็กเล็ก เครื่องเล่นหวาดเสียวขอผ่านนะคะ
เราวางแผนมาเที่ยวแบบ 2 วันเพื่อให้เที่ยวแบบสบายๆไม่เร่งรีบค่ะ ถ้าจะให้ครบทั่วต้องมาหลายรอบค่ะ แถมต้องฟิตร่างกายเพราะที่นี่กว้างและเดินเยอะสุดๆ

เราแบ่งเที่ยวตามโซนที่สนใจ โดยที่นี่แบ่งเป็น
1. Disney PIXAR Toy Story Land
2. Tomorrowland
3. Gardens of Imagination
4. Mickey Avenue
5. Fantasyland
6. Treasure Cove
7. Adventure Isle
วันแรกมาถึงมุ่งตรงไปยัง Fantasyland เพื่อไปหา Elsa Anna อันดับแรกค่ะ
เพื่อดูโชว์ Frozen A sing-Along Celebrations ที่นี่เปิดเป็นรอบการแสดงซึ่งมีแต่ภาษาจีนค่ะ ถึงจะฟังไม่ออกก็ยังตื่นตาตื่นใจค่ะ let’s it go ภาษาจีน เราก็ร้องตามได้ค่ะ

แวะทานข้าวที่ร้าน Tangled Tree Tavern ได้บรรยากาศ I’ve got a Dream มากๆ ด้านหลังจะเป็นหอคอยที่ขัง Rapanzel ด้วยค่ะ อาหารอร่อยและน่ารักมาก ราคามาตรฐานดิสนีย์แลนด์ค่ะ เนื่องด้วยเราไปฤดูหนาว อากาศ 0-4 องศา ร้านนี้เป็น Open door ก็จะหลบหนาวไม่ได้ค่ะ แต่มีบริการเติมน้ำร้อนให้ฟรี

จากนั้นก็ไปขวัญใจเด็กๆต่อนั่นก็คือพี่หมีพูห์
Hunny Pot Spin เป็นที่นั่งหมุนๆ เด็กเล็กเล่นสบายไม่หวาดเสียว ต่อด้วย The many Adventures of Winnie the Pooh คนเยอะพอสมควรเราไม่ได้กด Fastpass ค่ะ เพราะเต็ม
ไปเลทหลังเที่ยงหมดเกลี้ยงเลยค่ะ เด็กๆชอบมาก (เหมือนของ HK เป๊ะ) พอออกมาจะเจอส่วน Character greeting เจอพี่หมีพูห์ น่ารักมากกกก เสียดายคิวยาวจนอดถ่ายรูปด้วย



เดินต่อเป็นวงกลมเข้า Alice in wonderland Maze เป็นการเดินเที่ยวถ่ายรูปในเขาวงกตของเรื่องอลิซในดินแดนมหัศจรรย์
จากนั้นเดินเข้าปราสาท Enchanted Storybook castles ชมเรื่องราวบรรดาเจ้าหญิงในปราสาท ดูเรื่องราวของสโนไวท์ “Once Upon a Time” Adventure เด็กๆชอบมากๆ จากนั้นออกจากปราสาทไปที่ Voyage to the Crystal Grotto นั่งเรือชมฉากบรรดาภาพยนตร์การ์ตูนต่างๆ ทำออกมาสวยมีน้ำพุ แสง สี เสียง ประทับใจมากค่ะ(ถ้าให้ดีดูช่วงค่ำจะได้เปิดไฟสวยๆด้วยค่ะ)
ต่อไป Peter Pan’s Flight อันนี้ห้ามพลาดค่ะ (แต่คิวยาวมาก) ทำสวยมาก เหมือนกับเราเป็นเด็กๆมาเจอปีเตอร์แพนแล้วพาเรานั่งเรือเหาะไปผจญภัยด้วยกัน เด็กๆชอบมากอีกแล้วค่ะ ขอเข้าซ้ำซึ่งดูคิวแล้วไม่ไหวค่ะ ต้องรอ 1 ชม. ![]()
![]()
จบไป 1 โซน ใช้เวลานานพอสมควรค่ะ


เดินออกมาจะเจอ Disney PIXAR Toy Story Land เราจะลุยโซนนี้ต่อค่ะ ที่เด็กเล็กเล่นได้ไม่หวาดเสียวก็จะเป็น Woody’s Roundup เครื่องจะเหวี่ยงไปมานิดหน่อย สนุกมากกกก ถัดมาจะเป็น Slinky Dog Spin เหมือนนั่งรถไฟเหาะ แต่เป็นเจ้าหมา Slinky เด็กๆเล่นได้สบายไม่น่ากลัว แวะดูร้านขายของที่ระลึกนิดหน่อย Al’s Toy Barn ร้านเล็กๆ ธีม Toy story มีพบนักแสดงบริเวณนี้ด้วย (หลบหนาวได้นิดนึง)

จากนั้นก็ได้เวลาดูพาเหรดและพลุช่วงเย็น (พาเหรดกลางวันนี้ข้ามเลยค่ะดูไม่ทันเราแพลนว่าจะดูพรุ่งนี้) นี่คือทั้งวันได้แค่นี้เอง
เที่ยวกับเด็กเล็กมักจะเป็นแบบนี้ ต้องทานข้าว ทานเบรค เข้าห้องน้ำบ่อย ยิ่งใส่เสื้อผ้าหนาหลายชั้นยิ่งเป็นอุปสรรคในการแต่งตัว แถมต้องหลบหนาวบ่อยๆที่นี่หนาวจริงค่ะ มีหิมะตกขนาดใส่กันหนาว 6 ชั้นยังเอาไม่อยู่
โซนถัดมาที่เราไปคือ Garden of Imagination มีจุดถ่ายรูปเป็นที่ระลึกที่เป็นแลนด์มาร์กของที่นี่ Storytellers Statue ด้านหลังก็จะเป็นปราสาทเจ้าหญิง เรารอชมโชว์เจ้าหญิงค่ะที่ Golden Fairytale Fanfare เจอเจ้าหญิงครบจบที่เดียว โชว์อลังการและเพลงภาษาอังกฤษ ร้องตามได้สบายๆ แต่ด้านข้างมีม้าหมุน Fantasia Carousel คิวรอ 1 ชม. ฮิตมาก

จากนั้นไปต่อที่ Dumbo the flying Elephant เป็นช้างดัมโบ้บินๆหมุนวนแถมตอนที่เรานั่งไม่รู้เกิดอะไรขึ้นกว่าจะได้บิน แถมบินแป๊บๆค้างเต่ออยู่ข้างบน
เจ้าหน้าที่ก็ประกาศภาษาจีนเลยไม่รู้เรื่องว่ามีอะไรเกิดขึ้น
เดินออกมาด้านข้าง Meet Mickey แน่นอนว่าคิวยาวค่ะข้ามไปเลย
เรามุ่งตรงไปที่ Become Iron man / Spiderman / Captain America / Mavel Comic Academy ที่อยู่ในฮอลเดียวกัน เพราะเป็นเด็กผู้หญิงก็ไม่ค่อยอินกับ superhero เท่าไร เดินออกมาทานข้าวที่ Tomorrowland ต่อ

ที่ Tomorrowland จะเป็นธีมหนังเรื่อง Tron แต่มีเครื่องเล่น buzz lightyear ปนด้วยค่ะ เราได้แค่ยืนดูและมองๆ เพราะเหมาะกับวัยรุ่นมากกว่า เข้าไปใน Tron Realm Chevrolet Digital Challenge อันนี้เด็กๆเล่นเองค่ะ ขับรถแข่งเหมือนวีดีโอเกม แต่ถ้าเล็กมากๆนี่อาจยังเล่นไม่เป็นนะคะ เดินออกมาดูพาเหรดด้านนอกเพราะได้เวลาพอดี เราเดินย้อนมาดูทาง Garden of Imagination ปรากฏว่าทุกจุดเต็มไปด้วยคนยืน ทุกคนยืนบังกันหมด ขนาดพื้นที่เยอะแต่ทุกจุดเต็มไปด้วยคนยืน ต้องระวังเด็กๆด้วยค่ะกลัวโดนเบียดค่ะ
พาเหรดจบเราไปที่ Treasure cove ต่อ เดินตามขบวนพาเหรดมาค่ะ จะมาสิ้นสุดที่ตำแหน่งนี้ เนื้อเรื่องตามธีม Pirates of the Caribbean เด็กๆยังไม่ค่อยอินแต่แม่อินมากกกกก 555 ชอบมากค่ะ เริ่มแรกเราเดินไปถ่ายรูป Shipwreck shore มีจุดเล่นน้ำ ถ่ายรูป สไลเดอร์เล็กๆ Siren’s Revenge เดินถ่ายรูปเล่นในเรือโจรสลัด Landlubber Landing เดินดูฉากในหนังเรื่องนี้ ไม่มีอะไรค่ะ


แต่เห็น Pirates of the Caribbean-Battle for the sunken Treasure ไม่มีคิวรอแค่ 15 นาทีเลยเดินไปดู ยิ่งเข้ายิ่งลึกกลับตัวออกมาไม่ได้ค่ะ
คิวแถวทางเดินทำมายาวมาก เราเดินวนไปเรื่อยๆจนถึงจุดนั่งเรือด้านใน ตรงทางเดินจะเริ่มบิ้วอารมณ์ให้น่ากลัวก่อนลงเรือ จึงไม่เหมาะสำหรับเด็กเล็กค่ะเพราะเสมือนเรานั่งเรือดูหนังเรื่องนี้เจอฉากผี ต่อสู้ เรือจม หลอกให้ตกใจ และมีโดน Davy Jone ตามล่า
แถมมีดรอปเรือนิดนึง ทำเอาลูกขวัญหนีดีฝ่อเลย ฮาๆ แต่เอาจริงๆทำออกมาดีมากเลยค่ะ เสมือนเราเป็นตัวละครหนึ่งในเรื่องนั้นได้ผจญภัยพร้อมกับกัปตันแจ๊ค เพียงแต่มีลูกด้วยเลยทำให้มัวแต่ห่วงลูกจะกลัว
ถ้ารู้ก่อนก็จะไม่พาเข้าค่ะ (แต่โตแล้วและเคยดูหนังเรื่องนี้บอกเลยว่าห้ามพลาด!!สนุกมากกกกก)

ส่วน Adventure Isle จะเป็นการผจญภัยมี zipline ให้เล่น (แม่อยากเล่นแต่คงทิ้งลูกไม่ได้ ฮาๆ) ตอนแรกตั้งใจจะไปดู Tarzan แต่เวลามีน้อยและตกดึกอากาศหนาวมากเลยกลับก่อนสวนสนุกปิด เดินเล่นซื้อของที่ระลึก Mickey Avenue ก็ทุ่มกว่าแล้วค่ะ นี่ยังไม่ได้เดินที่ Disneytown เลยนะคะ รู้สึก 2 วันเที่ยวไม่พอ อาจต้องมีซ้ำที่นี่อีกหลายครั้ง ![]()
![]()
![]()















