Education

SISB Chiangmai

ลูกเพจหลังไมค์มาสอบถามเรื่องโรงเรียนเยอะมากค่ะ วันนี้เลยเขียนเล่าประสบการณ์ส่วนตัวในการเลือกโรงเรียนให้ฟังค่ะ

สำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ การเลือกโรงเรียนให้ลูกนั้นเป็นปัญหาใหญ่มากกกกกก บางท่านคิดตั้งแต่ยังอยู่ในท้อง เครียด สับสน ชีวิตช่วงหนึ่งวนเวียนกับการตระเวนไปเยี่ยมชมโรงเรียนให้ลูก พ่อแม่ทุกคนอยากให้สิ่งที่ดีที่สุดกับลูก ซึ่งตอบได้ว่า โรงเรียนที่ดีพร้อมสมบรูณ์แบบไม่มีค่ะ มีแต่โรงเรียนที่เหมาะสมกับลูกและครอบครัว ดังนั้นค่อยๆเลือกถามใจลูกและตัวเองดู หลักๆ จะมีคำถามวนเวียนอยู่สองข้อที่ต้องตอบให้เคลียร์ นั่นคือ

  • ข้อแรก คือ… จะเลือกโรงเรียนแบบไหนดี??? ไม่ว่าจะเป็นโฮมสคูล โรงเรียนทางเลือก โรงเรียนนานาชาติ โรงเรียนไทย บลาๆๆๆ เยอะมาก อันนี้ถ้าเราแยกประเภทของโรงเรียนได้ก็จะตัดสินใจได้ง่ายขึ้นค่ะ ลองหาอ่านจากบทความเก่าดูได้ค่ะ อนุบาลแนวไหนดี ซึ่งการตัดสินใจจะขึ้นอยู่กับบริบทของครอบครัวเป็นหลัก เชื่อว่าแต่ละบ้านมีเหตุผลในการเลือกแตกต่างกันไป
  • ข้อสอง เข้าเรียนตอนอายุกี่ขวบ??? ข้อนี้ขึ้นอยู่กับความพร้อมของลูกและครอบครัว ชั่งน้ำหนักระหว่างการอยู่บ้านกับอยู่โรงเรียนอันไหนจะเกิดผลดีกว่ากัน แน่นอนถ้าอยู่บ้านเล่นกับพ่อและแม่ทำกิจกรรมสร้างเสริมพัฒนาการเองได้ย่อมส่งผลดีกับตัวลูกเอง แต่ถ้าคุณพ่อคุณแม่มีภาระหน้าที่ต้องรับผิดชอบ การมาโรงเรียนแต่เล็กก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไร ถ้าเราเลือกโรงเรียนที่ถูกจริตกับลูกเชื่อว่าลูกย่อมมีพัฒนาการที่ดี พร้อมจะเติบโตอย่างมีความสุขได้ค่ะ แน่นอนการเลือกโรงเรียนจึงสำคัญมาก ถ้าคุณพ่อคุณแม่เครียดก็ไม่แปลกค่ะ (ฮา)

เริ่มช่วงใกล้ๆ 1 ขวบแอดมินก็มองหาคำตอบให้ลูก เผื่อที่ต้องจองคิวจะได้ไม่สายเกินไปค่ะ เราเริ่มลิสต์ชื่อโรงเรียนที่สนใจในเชียงใหม่ แล้วโทรนัดเพื่อเข้าไปชม ดูสภาพแวดล้อม facilities ต่างๆ พูดคุยหลักสูตรการเรียนการสอน จากนั้นมาดูความต้องการของครอบครัว ว่าโรงเรียนไหนตอบสนองต่อสิ่งที่เราต้องการที่สุด

ครอบครัวเราให้ความสำคัญด้านภาษา ด้วยลูกโตมาในยุคที่สังคมโลกถูกเชื่อมต่อกันอย่างไร้ขอบเขต ภาษาจะเป็นเครื่องมือสื่อกลางในการเชื่อมโลก อนาคตเด็ก 2 ภาษาอาจจะเป็นทักษะทั่วไป แต่ถ้าได้ 3 ภาษามันจะเป็นความสามารถพิเศษที่ติดตัวลูกในอนาคต

ดังนั้นแอดมินจึงตัดสินใจส่งเรียนโรงเรียนนานาชาติ ซึ่งโรงเรียนนานาชาติก็มีเยอะหลายหลักสูตร ทั้งอังกฤษ อเมริกา แต่สุดท้ายเรามาหยุดที่ “โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ เชียงใหม่” หรือเรียกสั้นๆว่า SISB ที่ตอบโจทย์ของที่บ้าน คือมีระบบการเรียนการสอน 3 ภาษา อังกฤษ จีนและไทย ที่นำหลักสูตรสิงคโปร์ซึ่งมีการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นระบบการศึกษาที่ดีที่สุด สร้างคนให้เติบโตไปเป็นประชากรมีคุณภาพ นำความรู้ความสามารถไปช่วยเหลือพัฒนาประเทศ ซึ่งไม่ได้เน้นแค่เก่ง แต่รวมถึงมีจริยธรรมคุณธรรม ระเบียบวินัย การเคารพผู้อื่น รักการเรียนรู้ตลอดชีวิตและเป็นผู้นำที่ดีในอนาคต

ซึ่งตรงกับเป้าหมายในการเลี้ยงดูลูกของครอบครัวเราค่ะ SISB เชียงใหม่ถึงแม้จะเพิ่งเปิดไม่นาน แต่ที่กรุงเทพเปิดมาเกือบ 20 ปีแล้วค่ะ จึงมั่นใจว่ามีคุณภาพมาตรฐาน หลักสูตรและมาตรฐานการเรียนการสอนถูกควบคุมจากโรงเรียนหลักซึ่งได้การรับรองและยกย่องจากสภาโรงเรียนนานาชาติ (CIS) ถึงคุณภาพการศึกษาสากล

หลักสูตรสิงคโปร์ จะเน้นภาษาอังกฤษ วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ซึ่งเป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิตของมนุษย์ แอดมินวางแผนการสอนให้น้องปริมและน้องปรางเติบโตด้วยพื้นฐานของวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์เช่นกัน เริ่มแรกเดิมทีแม่ไม่เข้าใจว่า Singapore Math คืออะไร มันดีกว่าระบบอื่นยังไง แต่พอลองมาฟังทางโรงเรียนอธิบาย พบว่ามันคือคณิตศาสตร์ที่เน้นวิธีการแก้ปัญหาองค์รวมมากกว่าคำตอบผลลัพธ์ เด็กจะถูกดึงศักยภาพ ฝึกการคิดวิเคราะห์ ตีโจทย์จากหลายๆมุมมอง

ดังนั้นเด็กจึงถูกฝึกให้มีกระบวนการคิดที่กว้างและยืดหยุ่น ไม่ได้คิดจะเอาชนะหาคำตอบที่เร็ว-ไวเช่นระบบอื่น อันจะเป็นนิสัยติดตัวที่มีประโยชน์ ในการเติบโตเป็นผู้ใหญ่อย่างมีคุณภาพ

ส่วนวิทยาศาสตร์มีการใช้เทคโนโลยีควบคู่ไปกับธรรมชาติสิ่งแวดล้อม และการรับผิดชอบต่อสังคม ดังนั้นสื่อการสอนจะทันสมัย รวมถึงหลักสูตรอื่นที่พัฒนาร่างกายและจิตใจ นั่นคือ กีฬา ศิลปะ ดนตรี โรงเรียนมีโรงยิมที่กว้าง ปลอดภัย ห้องสอนดนตรีที่มีเครื่องดนตรีเหมาะกับจำนวนนักเรียนที่รองรับ ห้องศิลปะอุปกรณ์ต่างๆที่แอดมินเข้าไปดูแล้วทึ่งในความพร้อมที่โรงเรียนลงทุนกับเด็ก และลูกของเรา

นอกจากหลักสูตรที่ถูกใจครอบครัวแล้ว สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ (Facilities) และระบบความปลอดภัยที่โรงเรียนมีให้ เหมาะที่จะรองรับการเติบโตของลูกเราเป็นอย่างดี โดยเฉพาะความปลอดภัย ที่นี่ออกแบบตึกให้เข้าถึงตัวเด็กได้ยากมาก ลูกเราจะอยู่ใน save zone เพราะต้องเข้าไปผ่านประตูถึง 3 ชั้น มีการใช้บัตร ID ในการรับลูกป้องกันปัญหาการลักพาตัวเด็กสร้างความอุ่นใจให้กับพ่อแม่เป็นอย่างมาก

นอกจากนั้นความปลอดภัยทางด้านสุขภาพก็อยู่ในระดับสูง โรงเรียนจะมีนโยบายเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ มีการตรวจสุขภาพเด็กโดย Nurse วิชาชีพก่อนเข้าเรียนทุกครั้ง เพื่อป้องกันการเกิดโรคติดต่อภายในโรงเรียน ซึ่งตั้งแต่เรียนมา 3 ปีลูกไม่เคยป่วยอะไรร้ายแรงเลยค่ะ ดีงามที่สุด ห้องเรียนอนุบาล (NK) มีห้องน้ำ ห้องล้างมือ เตียงชุดนอนสะอาด แยกเป็นสัดส่วนง่ายต่อการฝึกเข้าห้องน้ำของเด็กๆ สถานที่ทุกอย่างสะอาดสะอ้าน โล่งสบาย สวยงามเป็นระเบียบเรียบร้อยตามสไตล์ประเทศสิงคโปร์

ตอนแรกที่จะตัดสินใจเข้าเรียนที่นี่ค่อนข้างกังวลกับความเข้มของหลักสูตร ลูกจะเรียนหนักไหม จะเครียดไหม แต่ที่นี่ลูกแบ่งแยกชัดเจนมาก เนื่องจากเค้าอนุญาตให้พ่อแม่ไปสังเกตการณ์ได้ จะเห็นว่าเวลาลูกเรียน นิ่งและมีสมาธิ นั่งเก้าอี้เป็นระเบียบเรียบร้อยมาก เข้าแถวมีวินัยเก็บแขนไม่เหวี่ยงชนเพื่อนรอบข้าง เพราะที่นี่จะฝึกให้รู้จักเคารพคนอื่น แต่พอเวลาเล่นก็เล่นเต็มที่ สนามเด็กเล่นทั้ง indoor และ outdoor ครบและจัดเต็มมาก เด็กๆได้วิ่ง ปีนป่าย โหน ปลดปล่อยพลังงานเต็มที่ SISB ใส่ใจแม้กระทั่งบ่อทราย ทรายที่นี่คือทรายทะเลขาวสะอาด หลังเลิกเรียนนี่ลงไปคลุกทรายเกือบทุกวัน

ดังนั้นเรียนเป็นเรียน เล่นเป็นเล่นจริงจังเต็มที่ทั้งสองด้านเลยค่ะ โดยช่วงแรก (NK) จะเป็นการเตรียมความพร้อมพัฒนาด้านการช่วยเหลือตัวเอง พัฒนาด้านภาษาอังกฤษ จีน ไทย ฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็ก มีกิจกรรม sensory play ทุกวัน เน้นเด็กเป็นศูนย์กลาง ลูกมีความสุขมากค่ะ

ส่วนเรื่องอาหารแม่ไม่กังวลเลย ที่นี่จะมี 3 รอบต่อวัน แบ่งเป็น snack 2 มื้อ lunch 1 มื้อ จะทานในโรงอาหารติดแอร์ กว้างและสะอาด มีโซนล้างมือ เก็บจานชาม โต๊ะเด็กเล็ก-เด็กโต หากเริ่มเข้าประถม (Primary) จะเป็นอาหารแบบบุปเฟ่ต์เติมได้เรื่อยๆค่ะ รายการอาหารจะถูกจัดโดยนักโภชนาการที่ควบคุมจาก SISB กรุงเทพ มีการคำนวณแคลอรี่ สารอาหารครบทุก 5 หมู่ อาหารหลากหลายครบทั้งไทย จีน นานาชาติ รวมถึงการกระตุ้นให้เด็กๆชอบดื่มน้ำบ่อยๆ ที่โรงเรียนอธิบายว่าสมองและร่างกายคนเรา มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักถึง 72%

ดังนั้นการกระตุ้นให้เด็กดื่มน้ำสะอาดบ่อยๆจะช่วยให้สมองและร่างกายกระปรี้กระเปร่า สามารถเปิดรับการเรียนรู้อะไรใหม่ๆได้ดีขึ้น คุณพ่อคุณแม่สามารถติดตามการทานอาหารจาก seesaw app ที่ โรงเรียนใช้ติดต่อกับผู้ปกครองค่ะ เพราะครูจะส่งรูปมาให้ดูทุกวันว่า เด็กๆทานอะไรบ้าง นอกจากนั้นยังสามารถดูกิจกรรมการเรียนการสอน การบ้าน ประกาศต่างๆของโรงเรียนผ่าน app นี้ค่ะ มีความปลอดภัยและมีความเป็นส่วนตัวสูง หากมีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับ รร. เราก็จะแจ้งได้โดยตรง

เมื่อเราตัดสินใจส่งลูกเรียนที่ SISB ช่วงนั้นน้องปริมน้องปรางอายุประมาณ 2 ขวบปลายๆ ตอนนั้นก็เตรียมความพร้อมเบื้องต้นทั้งใจและกาย เช่น การฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็ก มัดใหญ่ การสื่อสารทั้งไทย จีน อังกฤษ หรือการช่วยเหลือตัวเองที่ลูกสามารถทำได้ดี มีเพื่อนๆหลายคนที่ส่งลูกมาฝึกที่โรงเรียนซึ่งก็ทำได้ดีมากค่ะ หรือสิ่งที่แม่พยายามฝึกแต่ไม่สำเร็จก็มาเริ่มฝึกที่นี่ โรงเรียนมีส่วนช่วยได้เยอะ วัน 3 แรกที่ลูกไปโรงเรียนพ่อแม่สามารถนั่งเรียนร่วมได้ เพื่อให้ลูกคุ้นเคยกับโรงเรียน ดังนั้นน้องปริมน้องปรางแทบจะไม่เคยร้องไห้งอแง แม่สบายไม่มีสงครามตอนเช้าที่ต้องตบตีกับลูก เพราะลูกมีความสุขกับการไปโรงเรียน

สิ่งที่เห็นได้ชัดจากการไปเรียนที่ SISB คือภาษาและนิสัยกล้าแสดงออก เช่นตอนไปเที่ยวสิงคโปร์ มีเด็กพื้นที่หลงทางจากพ่อแม่ เค้ามาคุยกับลูกเป็นภาษาจีน ลูกสามารถคุยโต้ตอบสื่อสารได้ ทำเอาแม่อึ้งไปเลยค่ะว่าโรงเรียนสอนลูกเราได้ขนาดนี้เลยเหรอ เพราะที่บ้านไม่มีใครคุยภาษาจีนแม้แต่คนเดียว ที่รู้เพราะอัดคลิปไว้แล้วให้เพื่อนช่วยแปลให้อีกที ส่วนเรื่องอื่นๆที่แอดมินชอบคือเราได้รู้ว่าทุกวันลูกเรียนเรื่องอะไรบ้าง เพราะจะมีส่งแผนการเรียนมาให้ล่วงหน้าทุกเทอม และสามารถเข้าไปดูการสอนทุกวันจาก seesaw ทำให้เราเตรียมความพร้อมให้ลูก ช่วยเสริมลูกควบคู่ขนานไปกับทางโรงเรียนได้ค่ะ แม่ก็เบาขึ้นไม่ต้องคิดหลักสูตรอะไรเอง

ค่าเทอมที่นี่ส่วนตัวมองว่า reasonable นะคะสิ่งที่จ่ายกับสิ่งที่ได้รับสมเหตุสมผล โดยโรงเรียนจะแบ่งเป็น 3 เทอมหยุดตามเทศกาล ไทย จีน ฝรั่งค่ะ โดยส่วนตัวหากลูกมีความสุขกับการไปโรงเรียน โรงเรียนปลอดภัยแม่วางใจฝากลูกไว้กับโรงเรียนได้ แค่นี้แม่ก็พอใจแล้วค่ะ ส่วนที่เหลืออื่นๆก็ต้องคอยดูกันไปค่ะ เพราะการเลี้ยงลูกให้ได้ดีไม่ใช่แค่ครอบครัวหรือโรงเรียนเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งแต่ต้องทำงานร่วมกันคู่ขนานกันไปค่ะ

📍 หากคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนสนใจรายละเอียดอื่นๆเพิ่มเติมของ SISB ลองเข้าไปดูในเฟสบุคเพจของโรงเรียน https://www.facebook.com/sisbchiangmai/

📍 หรือ เว็บไซต์โรงเรียน http://chiangmai.sisb.ac.th/chiangmai

📍 เยี่ยมชมโรงเรียน สามารถโทรติดต่อได้ที่ 090-893-2888 ค่ะ