
รวบรวมไว้ถึง 13 ที่ค่ะ เด็ดๆเหมาะกับการเรียนรู้ของเด็กๆแน่นอน
เราได้รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในสิงคโปร์ไว้ให้คุณพ่อคุณแม่เลือกพาลูกๆไปเที่ยวโดยเฉพาะ สำหรับสิงคโปร์เป็นประเทศร้อนชื้น ฝนตกเป็นประจำ ดังนั้นที่ต้องเตรียมคือ ร่มแบบพับ เสื้อกันฝน รองเท้าแตะ พัดลมมือถือแบบชาร์จถ่าน พัด สเปรย์น้ำแร่ฉีดหน้า และยากันยุง จะฉีดจะแปะหรือนาฬิกาก็ต้องจัดเต็มค่ะ รวมถึงยาทาหลังยุงกัดด้วยค่ะ

1. Far East Organnization Children’s Garden
หนึ่งในโซน Garden by the bay ที่สิงคโปร์…เป็นสถานที่ๆนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ต้องมา!!! แต่ที่ดังๆก็เห็นจะเป็นสองโดม Flower Dome และ Clouds Forest ซึ่งแน่นอนว่าเหนื่อยกับการวิ่งไล่จับลูกกลัวชนนู้นนี่พังมากค่ะ (กลัวจะต้องขายบ้านขายรถชดใช้ 555) ดังนั้นถ้าไม่อยากเหนื่อย แนะนำให้พาลูกมาปลดปล่อยพลังที่โซนนี้ค่ะ Children garden!!! แถมโซนนี้เข้าฟรี ไม่ต้องเสียค่าเล่น ว้าวมาก
ที่นี่แบ่งเป็น 3 โซน คือ เล่นน้ำ บ้านต้นไม้เล่นทราย และผจญภัยปีนป่าย
● ส่วนเล่นน้ำจะมีโซนเด็กเล็กเป็นน้ำพุปลาเล็กๆ โซนเด็กโตมาหน่อยก็จะเป็นสวนน้ำ เล่นน้ำพุ น้ำตก น้ำฝน สะอาดและไม่ร้อนมากมีที่นั่งให้สำหรับคุณพ่อคุณแม่นั่งรอ สำคัญคืออย่าลืมชุดว่ายน้ำและอุปกรณ์เสื้อผ้ามาเปลี่ยนด้วยค่ะ ที่นี่พี่การ์ดเยอะมากคอยดูไม่ให้เด็กๆได้รับอันตรายหรือเล่นผิดวิธี คุณพ่อคุณแม่ปล่อยเล่นสบายใจได้ค่ะ เป่านกหวีดทุก 3 นาที ![]()
● โซน Rainforest Tree House หรือบ้านต้นไม้เป็นสนามเด็กเล่นบนกองทรายขนาดใหญ่ เหมาะกับ 6-12 ขวบ แต่เราก็เล่นตั้งแต่ 2 ขวบนะคะ ก่อนหน้านี้ก็เล่นทราย ม้าโยกไป ครั้งนี้ 4 ขวบปีนป่ายได้ สไลด์เดอร์ได้ แข็งแรงมากขึ้นก็เล่นสนุกมากเลยค่ะ
● ผจญภัยปีนป่าย มี 2 ส่วน สำหรับ Toddlers จะอยู่ติดกับคาเฟ่ด้านหลังน้ำพุปลา จะมีอุโมงค์ต้นไม้ คานทรงตัว ชิงช้า ม้าโยก ที่กระโดดสปริง ชุดปีนป่ายสไลเดอร์จิ๋ว ส่วน 6-12 ขวบอยู่ฝั่งตรงข้ามค่ะ ซึ่งบอกเลยว่ามันส์มากกกกกก ห้ามพลาดเลยค่ะ เป็นชุดที่ออกแบบมาให้เด็กๆฝึกฝนกล้ามเนื้อโดยเฉพาะ แข็งแรง ปลอดภัย สนุก ปลดปล่อยพลังงาน แม่แค่เดินตามสบายๆไม่ต้องกังวลจะเสียงดังรบกวนใคร ลูกจะกรี๊ด หัวเราะ ตะโกนสนุกสุดเหวี่ยงเต็มที่ค่ะ ไม่มีร้องไห้งอแงเลยค่ะ ![]()
![]()
📍 ที่นี่เปิด อังคาร – ศุกร์ เวลา 10.00 – 19.00 น. ปิดทุกวันจันทร์เข้าชมรอบสุดท้าย 18.30 น.
เสาร์ – อาทิตย์ หรือวันหยุดนัขตฤกษ์ 9.00 – 21.00 น. เข้าชมรอบสุดท้าย 20.30 น. เปิดชมฟรี!!!!
🚕 วิธีการเดินทางมา จะนั่งแท๊กซี่ก็มาลงทางเข้าสะดวกเลยค่ะ หรือนั่งรถไฟฟ้ามาลงที่ Bayfront จะมีทางเดินกับป้ายบอกทางชัดเจนมีลิฟต์สะดวกสำหรับนำรถเข็นมาค่ะ พอขึ้นมาจากชั้นใต้ดินก็ต้องเดินเข้ามาอีกนิด แต่วิวสวยมากๆเดินไปถ่ายรูปไปก็เพลินดีนะคะ หรือจะนั่ง shuttle bus ค่าบริการคนละ 3 SGD (เหมาจ่ายทั้งวัน) ไปลง ณ จุดขายตั๋วหน้าโดมนิทรรศการจากนั้นเดินออกทางขวาฝั่ง Clouds Forests เดินไปประมาณ 5 นาทีก็จะเจอค่ะ

2. Future World ที่ Art Science Museam
ที่นี่เป็นสถานที่แสดงงานศิลปะนิทรรศการต่างๆ ตั้งอยู่ที่ Marina Bay sands ส่วนของ Shoppes ทางเข้าจะเป็นสวนดอกบัววิวสวยมากๆ เดินลงมาชั้นใต้ดิน B2 ก็จะเจอจุดขายตั๋วค่ะ เราจะเข้าเฉพาะส่วนแสดง Future World อีกอันคือ Minimalism เป็นของผู้ใหญ่ก็เลยไม่เลือกเข้าค่ะ ค่าตั๋วผู้ใหญ่ราคา 19$ เด็ก 2-12 ขวบ 14$ ถ้าต่ำกว่า 2 ขวบ ฟรีค่ะ มีเป็น Family Package ราคา 54$ แนะนำให้สมัคร Member ของ Sand Rewards ได้ลดเหลือ 43$ และสามารถใช้เป็นส่วนลดสำหรับทานอาหาร ช้อปปิ้งในโรงแรมได้ด้วยค่ะ (ได้ลดบุฟเฟต์ 30%ที่ร้าน RISE ใน Marina bay sand hotel ปูแบบ Jumbo Seafood มาแบบไม่อั้นค่ะ อร่อยคุ้มมากๆ นอกเรื่องละกลับมากๆ
)
งานที่แสดงจะเป็นของ teamLab จากญี่ปุ่นที่เคยมาจัดที่ไทยเมื่อหลายปีก่อน แต่ที่นี่มีเยอะกว่าค่ะ จะแบ่งเป็นโซนๆ เด็กๆกรี๊ดกันทุกโซน ตั๋วจะแบ่งเป็นรอบการแสดงแต่ก็เข้าได้เรื่อยๆนะคะ
● โซนแรกคือ Nature จะเป็น ดอกไม้&ผีเสื้อ มีน้ำตก น้ำไหล วิถีชุมชุน ให้ดูซึ่งถ่ายรูปอาร์ตๆสวยดีค่ะ แต่เราสายวิ่งเล่นดังนั้นจึงอยู่โซนนี้ไม่นาน ![]()
● ถัดมาเป็นโซน Town ของเล่น Interactive สไลเดอร์ เล่นกันหลายรอบมาก เด็กๆจะสไลด์ลงมาเป็นสายรุ้ง ชนกับผลไม้และลูกกวาดก็จะแตกออกมีเสียงกรุ้งกริ้ง สนุกกันมาก กรี๊ดและหัวเราะได้ค่ะ ^^ มีโต๊ะเมืองจิ๋วมีฝน ใช้ถ้วยไปรองน้ำฝน(ปลอมๆ)ได้ สนุกดี หรือกระดานวาดรูปดิจิทัล มีบล๊อคสีๆให้เด็กๆอุ้มมาต่อกันตามจินตนาการได้ ตรงพื้นก็จะมีบรรดาสัตว์ พืชสีต่างๆเล่นกับเด็กๆ โซนนี้ถูกใจมากค่ะ
● โซน Park ตรงนี้มีวาดรูปสัตว์ในฟาร์มแล้วสแกนคล้ายๆที่ผ่านมาค่ะ มีบ่อลูกบอลยักษ์ให้เด็กกลิ้งไปมาจะเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ มีให้ครีเอทเกมกระโดดแล้วฉายบนพื้นให้เด็กๆวิ่งกระโดดเหยียบ เป็นอะไรที่ตื่นตาตื่นใจล้ำสมัยมากค่ะ เหมาะกับเด็กยุคเทคโนโลยีอย่างเรา
ตรงเกมนี้วิ่งเล่นกันนานพอสมควร คนไม่ได้เยอะมากเท่าไรเพราะเราไปช่วงเช้าเพิ่งเปิดค่ะ
● โซนสุดท้ายเป็นห้องคริสตัล เป็นไฟกระจก LED สวยมากกกกกก อันนี้ต้องต่อแถวเรียงกันไป สวยงามอลังการค่ะ แต่ถ่ายรูปให้สวยยาก >___< ไปชมเองรับรองประทับใจแน่นวล
ดูสั้นๆแต่เราใช้เวลา 2 ชม. กว่าๆ เค้าไม่ได้จำกัดเวลาในการเดินค่ะ เด็กๆเล่นกันนานมาก อย่างละหลายๆรอบ แม่ก็นั่งรอไป แอร์เย็นสบายรอได้ไม่เบื่อค่ะ ^^
🚕 การเดินทางมาสะดวกสุดก็นั่งแท๊กซี่ค่ะ บอกมาลงที่คาสิโน Marina bay sands แล้วเดินเข้าไปในสุดด้านขวามือทะลุออกอีกฝั่งก็ถึงค่ะ มีป้ายบอกทางตลอด หรือถ้านั่ง MRT ก็ลงที่สถานี Bayfront Exit C,D เดินเข้ามาส่วนช้อปปิ้งขึ้นบันไดเลื่อนแล้วเดินตรงมาจนทะลุมองไปขวามือก็จะเห็นตึกทรงแปลกๆค่ะ ไม่ต้องหยุดที่ตึก LV กันนะคะ เดินผ่านมาเลยค่ะ

3. Garden by the bay (สิงคโปร์)
เป็นสถานที่ ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดถ้าได้มาเที่ยวที่สิงคโปร์ ก่อนมาเที่ยวอ่านหนังสือเรื่องกุ๋งกิ๋งเที่ยวสิงคโปร์ให้ฟัง เป็นการเตรียมความพร้อมว่าจะต้องเจออะไรบ้าง เด็กๆตั้งหน้าตั้งตารอที่จะเที่ยวสิงคโปร์อย่างใจจดใจจ่อค่ะ
ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะเข้าไปชมส่วน Cloud Forest และ Flower Dome เคยเข้าไปหลายรอบมากค่ะ ข้อดีของที่นี่คืออัพเดทสวนเสมอ (เฉพาะ Flower Dome นะคะ แต่ Forest ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง) อันที่จริงที่นี่มีแบ่งไว้ทั้งหมด เป็นโซนๆ
● Flower Dome : เป็นสวนดอกไม้นานาพรรณในห้องแอร์เย็นสบาย อัพเดทเปลี่ยนเรื่อยๆ ตามกิจกรรม/นิทรรศการที่สำคัญค่ะ ที่สำคัญถ้าชอบกลิ่นดอกไม้นี่จะฟินมากค่ะ หอมมากกกกกก ถ้ามีเตียงนุ่มๆให้นอนนี่จะสวรรค์มากเลยค่ะ อิอิ
● Cloud forest : เป็นสวนน้ำตกขนาดใหญ่ในห้องแอร์ เดินขึ้นลิฟต์แล้วค่อยเดินลงนะคะ ประหยัดแรง
แถมมีวิวชิงช้าสวรรค์ให้ถ่ายรูปด้วยค่ะ
● OCBC Skyway : เป็นทางเดินลอยฟ้าสูง 22 เมตร ยาวถึง 128 เมตร ระหว่าง Supertree Grove ค่ะ แต่ไปกี่ทีๆก็ไม่ได้เดินค่ะ เพราะไม่มีเวลาและอากาศค่อนข้างร้อน
● Super Grove : คล้ายๆต้นไม้เป็นสัญลักษณ์ของที่นี่เลยค่ะ มี 18 ต้นและละต้นสูง 25-50 เมตร เป็นสวนแนวตั้งตกแต่ง ซึ่งจะเข้าฟรี แค่เงยหน้ามอง
มีโชว์แสง สี เสียง วันละ 2 รอบค่ะ 19.45 และ 20.45 น.
● Bay East Garden : ตรงนี้เหมือนเป็นสวนสาธารณะค่ะ มีถนนเล็กๆ มีคนมาออกกำลังกาย ขี่จักรยาน มานั่งพักผ่อน ดูวิวสวยๆค่ะ จุดนี้เปิด 24 ชม. เลยค่ะ
● Dragonfly&Kingfisher Lakes : เป็นสวนต้นไม้น้ำ ตกแต่งแบบธรรมชาติบึงน้ำ มีทางเดินไม้ให้เดินชมธรรมชาติ
ชีวิตสัตว์น้ำ มีศิลปะต่างๆให้ชม รวมถึงผลงานศิลปะรูปแมลงปอด้วยค่ะ
● Heritage garden : เรียนรู้ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมของสิงคโปร์จากสวนนี้ มีสวนอินเดีย สวนจีน สวนมาเลย์ colonial garden พาเด็กๆเรียนรู้เรื่องต้นไม้ได้ค่ะ
● World of plants : ตกแต่งสวนด้วยต้นไม้นานาพรรณ มีที่นั่งรูปเห็ดน่ารัก ต้นไม้ที่ตัดแต่งเป็นรูปต่างๆ
● The Canyon : สวนหินรูปทรงต่างๆ มีแกะสลักจากหินอ่อน ผลงานศิลปะ หินรูปทรงแปลกตา ต้นปาล์ม ต้นไม้แปลกๆค่ะ
● Sun Pavilion : สวนกระบองเพชร พืชน้ำน้อย เขตทะเลทราย สวยๆเยอะมาก
● Far East Organnization Children’s Garden สุดท้ายที่ห้ามพลาด ที่สำคัญเข้าฟรี!! ไม่ค่อยมีใครรู้จักเป็นโซนสำหรับเด็กเล่นโดยเฉพาะ ดีงาม ขีดเส้นใต้ไว้เลยค่ะ ต้องมา!!!!! ที่นี่มีสวนน้ำสำหรับเด็กหากใครตั้งใจมาต้องเตรียมชุดว่ายน้ำและอุปกรณ์สำหรับเปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำมาด้วยค่ะ นอกจากนั้นมีสถานที่เล่นทรายขนาดใหญ่ ชิงช้า มีสนามเด็กเล่นสำหรับเล่นปีนป่าย ซึ่งเยอะมากมีหลายแบบให้เลือกเล่นให้เหมาะกับเด็กแต่ละวัย
🚕 วิธีการเดินทางมาจะนั่งแท๊กซี่ก็มาลงทางเข้าสะดวกเลยค่ะ หรือนั่งรถไฟฟ้ามาลงที่ Bayfront จะมีทางเดินกับป้ายบอกทางชัดเจนค่ะ พอขึ้นมาก็ต้องเดินอีกไกลค่ะ แต่วิวสวยมากๆเดินไปถ่ายรูปไปก็เพลินดีนะคะ หรือจะนั่ง shuttle bus ค่าบริการคนละ 2 SGD ไปลง ณ จุดขายตั๋วหน้าโดมนิทรรศการเลยค่ะ ส่วนค่าชม two conservatories ผู้ใหญ่ 28 SGD เด็ก (3-12) 15 SGD ถ้า OCBC skyway คนละ 5 SGD เด็ก 3 SGD ค่ะ

4. สวนน้ำ Adventure Cove Waterpark @Sentosa
เป็นอีกที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างมาก เนื่องจากประเทศสิงคโปร์ร้อนและร้อนมาก การเที่ยวสวนน้ำเป็นอะไรที่เที่ยวได้ตลอดปีไม่มีหยุด (ยกเว้นปิดปรับปรุงประจำปี ต้องตรวจสอบในเวปค่ะ) ที่นี่อยู่ในเกาะเซนโตซ่าค่ะ ด้านหลังของ อะควาเรี่ยมอีกที วิธีการมาก็เหมือนกับเข้ามา Universal studio ถ้าแพลนมาเที่ยวที่นี่ ใช้เวลาอย่างต่ำครึ่งวันนะคะ ถ้าให้สนุกสุดคุ้มเต็มวันก็ไม่เบื่อค่ะ ค่าเข้าผู้ใหญ่ 38$ เด็ก 30$ ต่ำกว่า 4 ขวบฟรีค่ะ
ที่นี่จะไม่อนุญาตให้นำน้ำ ขนม อาหารเข้ามา จะมีตู้ Locker ให้เช่าด้านนอกค่ะ 10$/วัน 8$/4ชม. แต่พอเข้ามาด้านในจะมี shop ขายอุปกรณ์เล่นน้ำสำหรับคนไม่ได้เอาชุดมาค่ะ เดินเข้าไปเปลี่ยนชุดจะมีห้องอาบน้ำ มีให้เช่าเก็บของค่ะ Locker อุปกรณ์ต้องเตรียมมาเอง พวกผ้าเช็ดตัว แชมพูสบู่เด็ก (มีแต่แชมพูผู้ใหญ่บริการค่ะ) ที่สำคัญเงินค่ะ!! ด้านในมีที่ให้เสียทรัพย์อีกหลายที่ ตอนแรกคิดว่าเล่นน้ำไม่ต้องพกเงินแล้ว ![]()
จุดลงน้ำมีหลายจุดนะคะ เดินเข้าไปด้านในเริ่มที่ Seahorseaway ดีกว่าค่ะ เป็นจุดเล่นน้ำสำหรับเด็ก (ถ้าถอดรองเท้าวางไว้แต่แรก พอเดินเข้าไปด้านในเจ็บเท้ามากค่ะ เค้าทำพื้นแบบกันลื่นซึ่งเจ็บมากถ้าถอดรองเท้าเดิน) ด้านในมีหลายโซนมากทั้งวันรุ่น เด็กเล็ก เด็กโต สไลเดอร์ คลื่นทะเลเทียม จุดน้ำตก จุดเขาวงกต เป็นสวนน้ำที่ครบเครื่องมากค่ะ แต่สำหรับลูกเล็กอย่างเราเอาแค่ว่ายน้ำรอบๆดูปลาก็สนึกแล้วค่ะ รอบหนึ่งยาวประมาณ 1.5 km มีจุดขึ้นให้พักเป็นระยะค่ะ แถมมีการ์ดตลอด อุปกรณ์ห่วงยางชูชีพมีบริการฟรี แต่ของเรา 1.7 ขวบเลยเอาไปเองค่ะ เพราะลูกเล็กกว่ามาตรฐานกลัวไม่มีไซส์ ถ้าไปช่วงเทศกาลคนจะเยอะมาก บางจุดต้องรอเสื้อชูชีพค่ะ น้ำไม่ลึกเลยค่ะยืนได้สบาย ระยะทางที่ลอยตัวไปมีจุดผ่านน้ำตกเป็นช่วงๆ ให้ตื่นเต้น ผ่านอุโมงค์ค้างคาว มืดๆช่วงสั้นๆ ที่พีคสุดคือว่ายน้ำไปกับฝูงปลา และปลากระเบน แต่เค้ามีกระจกกั้นนะคะ แต่ราวกับว่าได้ว่ายน้ำอยู่ใกล้กันค่ะ
ด้านในยังมีจุดขายอาหาร อาหารอร่อยค่ะแต่จะหนาวๆหน่อยเพราะเพิ่งขึ้นจากน้ำ มีบริการตู้เป่าตัวให้แห้ง ไม่ฟรีค่ะต้องหยอดเหรียญ (แต่พอดีวันที่ไปตู้เสียเลยไม่ได้ใช้บริการ) ข้างๆก็มีทรายให้เล่น และมีจุดดำน้ำดูปลากระเบนค่ะ (เสียเงินเพิ่มอีกแล้ว) นี่ถ้าโตเท่าตอนนี้คงต้องเล่นทั้งวันเพราะมีหลายจุดให้เล่นเพิ่มค่ะ ช่วงที่ไป 1.7 ขวบก็ใช้เวลา 5 ชั่วโมงแล้วค่ะ เล่นไป 2 รอบ พอจะพากลับมีอิดออดไม่ยอมขึ้นค่ะ (ฮา) ต้องใช้วิธีจะพาไป Aquariums ต่อถึงจะยอมไปอาบน้ำ แต่ที่นี่สนุกมากเล่นกันจนตัวเหี่ยวซีดเลย รับประกันความสนุกค่ะ ![]()

5. Singapore Zoo
ในส่วนของสวนสัตว์ที่นี่แบ่งเป็น 4 ส่วน คือ Singapore Zoo , River Safari , Night Safari , Jurong Bird Park สวนสัตว์ที่สิงคโปร์กว้างใหญ่มากค่ะ แต่ไม่สามารถเอารถส่วนตัวเข้ามาได้ ดังนั้นเตรียมรองเท้าที่ใส่เดินสบายนะคะ และอย่าลืมฉีดยากันยุง ติดสติ๊กเกอร์กันยุงและทำทุกวิถีทางไม่ให้โดนยุงกัดค่ะ มองไม่เห็นยุงแต่มีรอยโดนกัดค่ะ
พัดลมมือถือ พัด ร่ม เสื้อกันฝนเตรียมให้พร้อมค่ะ จากนั้นก็ GO!!
เมื่อตรวจบัตรผ่านประตูเข้ามาด้านในแล้ว จะมีบริการรถให้เช่า ที่น่าสนใจคือ scooter ไฟฟ้า 35$ ต่อวัน แต่จำกัดนั่งขี่คนเดียวเอาเด็กซ้อนไม่ได้ อดเลย!รถเข็น กะบะลากเด็กก็มีบริการให้เช่าค่ะ เดินเข้ามาบริเวณศูนย์กลางจะมี Tram บริการ ต้องซื้อบัตรเพิ่ม ผู้ใหญ่ 5$ เด็ก 3$ สามารถนั่งได้ไม่จำกัดจำนวน ขึ้น-ลงที่สถานีเท่านั้น Tram Station มี 4 จุด รถมีหลายคันไม่ต้องรอคิวนานค่ะ
● ที่นี่จะมีเทศกาลต่างๆต้องติดตามข่าวในเวปไซด์ค่ะ อย่างครั้งก่อนเป็นไดโนเสาร์ พอครั้งนี้กลายเป็นแมลงยักษ์ (Land of Giants) ส่วนที่เป็นไดโนเสาร์เก็บหายหมดเลยค่ะ เสียดายนิดๆทำดีมากเลยแต่ครั้งก่อนลูกกลัวไดโนเสาร์แม่เลยเข้าไปดูคนเดียว ![]()
● ที่นี่มีกิจกรรมให้เด็กทำด้วยนะคะ ดูเค้าใส่ใจการกระตุ้นเด็กให้คิดด้วยกิจกรรมต่างๆค่ะ ที่ทางเข้าจะแจกโจทย์ให้เด็กๆไปตามล่าหาคำตอบกลับมาส่ง แล้วจะได้ของที่ระลึกเป็นรางวัลค่ะ นอกจากนั้นยังมีจุดต่างๆสำหรับทำกิจกรรม ศิลปะให้เด็กๆมีส่วนร่วมค่ะ แต่เราเวลาน้อยต้องรีบทัวร์ ![]()
● เราเข้ามาในสวนสัตว์โดยให้เด็กๆนั่งรถเข็นเที่ยวค่ะ สะดวกมาก เด็กจะได้ไม่เหนื่อยมากเพราะกว้างมาก เที่ยวครั้งนี้จะวนขวา ไปดูหมี เพนกวิน สุนัขจิ้งจอก ขั้วโลก โซนนี้จะเป็นห้องแอร์ค่ะ เดินต่อมาเป็นสัตว์แอฟริกา ยีราฟ ม้าลาย นกกระจอกเทศ สิงโต เสือ เรามาเที่ยวกลางวันสัตว์ต่างๆก็นอนค่ะ บางตัวไปแอบนอนเราก็หาไม่เจอ ตรงนี้จะเป็นสถานีที่ 2 จะแวะขึ้นแทรมต่อก็ได้ค่ะ พอเดินมาสักพักจะมีทางแยกขึ้นและออกขวา ถ้าขึ้นเนินจะเป็นโซน Reptopia มีงู ไปตอนให้อาหารพอดีค่ะ มีซากหนูตายงูกำลังกินเลยค่ะ ออกแนวน่ากลัวหน่อยๆ มีกิ้งก่า แมงป่อง แมงมุม สัตว์เลื้อยคลานต่างๆ ถ้าใครกลัวข้ามโซนนี้ไปเลยค่ะ
● แต่ถ้าเดินขึ้นมาจะเจอโซนเด็กค่ะ มีม้าหมุน สวนน้ำน่าสนุกมาก ถ้ามีเวลาทั้งว่าแนะนำว่าควรเล่นมากๆค่ะ มีขี่ม้าแคระ ร้านขายของที่ระลึก สวนดอกไม้ บึง วิวสวยๆให้ถ่ายรูป
● ที่นี่ค่อนข้างร้อน จะมีจุดพักที่เป็นห้องแอร์ให้เป็นพักๆ สวนสัตว์จะทำดูไม่ให้เหมือนขังกรง จัดวางได้สวยงามมากค่ะ แต่การป้อนอาหารสัตว์จะป้อนเป็นเวลาและราคาสูง เคยชินกับการป้อนยีราฟครั้งละ 10 บาทค่ะ เจอไปร้อยกว่าบาทนี่ก็ปาดเหงื่อเลยค่ะ อากาศร้อนขึ้นมากระทันหัน ![]()
สัตว์ที่นี่ไม่ค่อยเหมือนกับบ้านเรา มีหลายตัวที่บ้านเราไม่มีเช่นตัว Komodo หรือกิ้งก่ายักษ์ ชิมแปนซี กอลิล่ามีเยอะมากค่ะ แรด ฮิปโปก็คนละสายพันธุ์กับบ้านเรา เด็กๆเลยตื่นตาตื่นใจมาก
ตอนกลับจะมีคิวแท๊กซี่ที่ยาวมาก ถ้าไม่ต้องการรอสามารถขอนั่ง Express ราคา 50$ ได้ด้วยค่ะ

6. River Safari Singapore
วันนี้พาแฝดมาในส่วนของ River Safari ค่ะ ตั้งใจมานั่งเรือชมสัตว์
ถ้าซื้อบัตรเข้า 2 ส่วนพร้อมกันจะได้ส่วนลดมากกว่าค่ะ (เดี๋ยวช่วงบ่ายจะไป Zoo ต่อค่ะ)
จุดซื้อบัตรคือหน้า Zoo ค่ะ วันที่เรามาเป็นช่วง Land of Giants (18 Nov-31 Dec 2017) เดินแยกมาทางขวาเข้าส่วนของ River จะมี Starbuck ให้แวะหาอะไรทานให้ชื่นใจ สามารถเอาเครื่องดื่มเข้าไปด้านในได้ค่ะ ตรวจตั๋วก็ลุยเข้าไปเลย เราเอารถเข็นมาเอง 2 คันค่ะ ใช้งานสะดวกเข็นได้เรื่อยๆไม่ต้องยกขึ้นลงให้ลำบากค่ะ จะวนซ้าย หรือขวาก็เหมือนกันนะคะ แต่เราจะวนซ้ายค่ะ เพราะเป็นห้องแอร์ ฮาๆ ก่อนเข้าไปมีกิจกรรมให้ทำสำหรับเด็กโต 6-10 ขวบเป็นการเรียนรู้สำหรับกิจกรรมพิเศษ คำตอบจะซ่อนอยู่ด้านในให้ไปหาคำตอบค่ะ แล้วสามารถเอามาแลกรางวัลได้ตอนกลับ
● ที่นี่จะรวบรวมแม่น้ำต่างๆทั่วโลกไว้ รวมถึงสายพันธุ์ปลา จระเข้ เต่า งู ลิง กระรอก พะยูน ช่วงแรกจะแสดงการจำลองแม่น้ำในที่ต่างๆบนโลก มีงู กบ ให้เด็กๆได้ส่องดูที่ตู้กระจก จระเข้แคระ น่ารักมากดูไม่น่ากลัวเลยค่ะ มีให้สัมผัสสัตว์น้ำได้แต่แสดงเป็นรอบๆไปนะคะ พอมาถึงแม่น้ำแยงซีเกียงก็จะมีแสดงส่วนของหมีแพนด้าด้วยค่ะ เมื่อออกมาก็เจอร้านอาหาร Mama Panda Kitchen อร่อยมากค่ะ ห้องแอร์นั่งพักสบาย แต่คนเยอะมากโต๊ะจะไม่ค่อยว่างค่ะ ที่นี่อากาศร้อนชื้น เค้าจะมีจุดพักเป็นห้องแอร์เป็นระยะๆ
● จากนั้นเดินข้ามสะพานมาในส่วนของการนั่งเรือชมวิว แต่เราสนใจส่วนของ River quest มากกว่าค่ะ ปรากฏว่า!!! เด็กๆสูงไม่ถึง -___-” เสียใจมาก
ได้ของที่ระลึกมาปลอบใจ ต้อง 106 cm นะคะถึงได้เล่น และไม่ฟรีค่ะ ผู้ใหญ่ 5$ เด็ก 3$ ระหว่างที่เรานั่งรอคนอื่นๆเข้าไปนั่งเรือ เค้ามีกิจกรรมให้ทำเป็นงานศิลปะค่ะ และก็มีการแสดงด้านหน้าทางเข้าไม่ให้เราเบื่อ ประมาณ 15 นาที ก็เดินออกไปอีกทางนะคะ ไม่ได้กลับมาทางเดิม
● เดินต่อไปก็จะเจอจุดดูลิงและกระรอกแบบเปิดโอเพ่นค่ะ ต้องทิ้งรถเข็นไว้เอาแต่เฉพาะของมีค่าไป จุดนี้เข้าฟรีไม่เสียเงินค่ะ แล้วก็มีส่วนของพะยูน ตู้ปลายักษ์สวยและน่าประทับใจเด็กๆมาก แต่ก็มีให้ตกใจกลัวในส่วนที่แสดงสัตว์น้ำตัวใหญ่ ปลาที่นี่เค้าเน้นแปลกประหลาดใหญ่โตมโหฬาร จัดสวน ตู้ปลาได้สวยงาม ความสะอาดเต็ม 10 ค่ะ เพียงแต่อากาศร้อนถึงร้อนมาก จะเหนื่อยและหงุดหงิดง่ายเท่านั้นค่ะ ที่สำคัญ!!!! อย่าลืมฉีดยากันยุง ไม่เห็นแต่แอบมากัดตอนไหนไม่รู้ค่ะ คันหลายจุดเลย (ทั้งที่ฉีดกันยุงแล้วนะคะ ~_~) พกน้ำ ขนม พัดลมนั่งพักเป็นระยะค่ะ แต่ที่นี่ระยะทางไม่ยาวมากก็พอไหว แต่เพราะมาช่วงสายๆเรี่ยวแรงยังเต็มที่ นอนมาเต็มอิ่ม เด็กๆตื่นตาตื่นใจ เลยอยู่ในโอวาทหน่อยๆค่ะ
📍 ที่นี่เปิด 10.00 – 18.00 นะคะ
🚕 วิธีมาค่อนข้างไกล เรานั่งแท๊กซี่มา 40$ (นั่งได้ 7 คนค่ะ) แต่ถ้าจะมาบัสคือ ตั้งต้นที่สถานี Ang Mo Kio ทางออก C หาท่ารถบัส Bus Interchange แล้วเดินไปรอคิวขึ้นรถบัสสาย 138 ที่ท่า B1 (Birth B1) ใช้เวลาเดินทาง 40 นาที ค่าโดยสาร 1.41$

7. สนามเด็กเล่น สนามบิน Changi ที่ Terminal2
สะดวกสบายสำหรับเด็กค่ะ รถเข็นโหลดตอนเช็คอินได้เลยเพราะด้านในมีบริการ ซึ่งสามารถปรับนอนเอียงได้ แต่ถ้าเด็กตัวใหญ่จะติดขานิดค่ะ ห้องน้ำก็มีที่วางลูกแบบป้องกันตก ชักโครกมีปรับให้เหมาะกับขนาดตัวเด็ก มี Kid Zone ให้เด็กๆมาเล่นรอค่ะ หากเดินออกจาก immigration เดินตรงมาเยื้องๆซ้าย อยู่ในสุดโซนร้านอาหาร ละแวกนั่นมีร้านขายของเด็ก ของเล่น แถมมีห้องให้นมแม่ด้วย แต่อย่าเล่นเพลินจนลืมเวลาขึ้นเครื่องนะคะ ![]()

8. Universal Studios Singapore
สิ่งที่ต้องเตรียมในการมาเที่ยว Universal คือพัดลมมือถือ อากาศจะร้อนมากตลอดปี บางครั้งมีฝนตก อย่าลืมพกร่ม เสื้อกันฝนมาเผื่อด้วย ค่าเข้าชม 76$ เด็ก 56$ ต่ำกว่า 3 ขวบเข้าฟรี ถ้าอยากประหยัดเวลาแนะนำอัพตั๋วให้เป็น Express บวกเงินเพิ่มอีก 70$ จะได้ one use per attraction หมายถึงสามารถลัดคิวได้แค่ 1 ครั้งต่อ 1 เครื่องเล่น ถ้าจะเล่นรอบที่ 2 เครื่องเล่นเดิมต้องไปต่อแถวปกติ อัพเกรดแล้วจะได้บัตรเพิ่มมา 1 ใบก่อนเข้ายื่นใบนี้ให้ตรวจพนักงานจะขีดฆ่าออกว่าเราใช้สิทธิ์แล้ว ถ้าอยากเล่นซ้ำๆแบบลัดคิวหลายรอบ ต้องเพิ่มเงินอีกอีก 20$ ให้เป็น unlimited ค่ะ (รวม 166$)
● โซนแรก Madagascar เข้าไปถ่ายรูปเป็นที่ระลึก แล้วเล่น King Julien’s Beach Party-Go-Around เป็นม้าหมุนค่ะ จากนั้นไปล่องเรือ Madagascar : A Create Adventure สนุก ไม่เปียก เนื้อเรื่องเหมือนเราเข้าไปอยู่ในเรื่องมาดากัสก้าเลยค่ะ
● จากนั้นเดินไปโซน Far far away ไปดู Shrek 4D Adventure เด็กๆไม่ยอมนั่งเองเลยต้องนั่งที่พิเศษที่ให้เด็กนั่งตัก พอออกมาที่ร้านขายของที่ระลึกมี Magic Potion Spin เหมือนชิงช้าสวรรค์เล็กๆให้เล่นค่ะ
● ส่วนโซน Puss in boot ไม่ได้เล่น มีแค่ถ่ายรูปด้วย ให้สำหรับเด็กโตเล่น และจะมี Donkey show แสดงเป็นรอบๆไป สนุกดีค่ะ ถัดมาจะเป็น Water world เป็นโชว์เหมือนในหนังค่ะ สนุกดีแต่บริเวณที่นั่งจะมีบอกว่าโซนนี้เปียก ต้องใส่เสื้อกันฝนเผื่อไว้ค่ะ
● เดินต่อมาจะเป็น Jurassic Park พักกินข้าวที่นี่แล้วไปเล่น Dino-Soarin เหมือนหนวดปลาหมึกจะหมุนๆปรับขึ้นลงได้ เด็กๆชอบมาก เครื่องเล่นอื่นหวาดเสียวก็ไม่ให้เด็กเล่นนะคะ
● ถัดมาเป็นโซน The Mummy มี Treasure Hunters เป็นรถคุณปู่น่าสนุกดี แต่คิวยาวมาก บัตร Express ใช้กับที่นี่ไม่ได้ ก่อนหน้านี้เลยอดไปตามระเบียบ นอกนั้นหวาดเสียวไม่อนุญาตให้เด็กเข้า ตอนนี้ได้เวลานอนเข็นไปสักพักก็หลับ พาไปนอนในร้านอาหารโซน Sci-Fi City เป็นห้องแอร์เย็นๆค่ะ คนน้อยเอารถเข็นเข้าได้
● หลับไป 1 ชั่วโมงครึ่งก็ไปเล่น Accelerator ต่อ เป็นถ้วยหมุนๆ ชอบกันอีกแล้ว ส่วนที่ Hollywood Street จะมีเต้นโชว์ แล้วก็เข้าไปดู Light Camera Action Hosted by Steven Spielberg ต่อ ซึ่งเด็กๆตื่นเต้นและกลัวนิดหน่อยค่ะ เป็นฉากสมมติเมือง New York โดนพายุถล่ม
● พอเสร็จก็ไป Santa Workshop ก็สนุกดีค่ะ ที่สำคัญมาครั้งนี้สองสาวสูงเกิน 92 cm แล้ว เย้ๆ สามารถเล่น Sesame Street Ride ได้แล้ว ชอบมากขอเล่นซ้ำหลายรอบเลยค่ะ
● ได้เวลาทานอาหารเย็นพอดี มีอีกหลายโชว์นะคะแต่เวลาไม่พอ เข้าเล่นครั้งนี้ก็สนุกคุ้มค่า ร้านอาหาร/น้ำ ราคาราวๆ 10-15$ ห้องน้ำสะอาด มีครอบคลุม แต่วันหยุดคนเยอะมาก ต้องวางแผนการเล่นดีๆค่ะ ที่สำคัญมากี่ครั้งๆ โชว์ไม่เปลี่ยนเลย ตั้งแต่เด็กยันมีลูก ทุกอย่างคงเดิมเหมือนเดิมทุกอย่างค่ะ
ฮาๆ แต่ที่เพิ่มเติมคือมากับลูกที่โตขึ้น สนุกก็ตรงนี้แหละค่ะ
🚕 วิธีการมาได้หลายเส้นทาง แต่โรงแรมใกล้มากเลยนั่งแท๊กซี่มาสะดวกกว่า บอกให้ไปส่งที่ Casino นะคะ ประตูจะใกล้มาก เข้ามาเจอบันไดเลื่อน ขึ้นมามองไปซ้ายมือเห็นเลยค่ะ ไม่ได้เสียค่าเข้าเกาะด้วย 😉 หรือถ้ามารถไฟฟ้า MRT ลงที่สถานี HarbourFront (Exit E) จะเข้าสู่ตัวห้าง VivoCity ขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้น 1 แล้วออกจากห้างจะเจอป้าย Sentosa Boardwalk มีค่าบริการเข้าด้วย (เส้นทางนี้ไม่เคยลองค่ะ กลัวจะหมดแรงซะก่อน) หากจะขึ้น monorail ให้ออกที่ (Exit C) ขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้น 3 Lobby L แล้วเดินตามป้ายไป Sentosa Express ค่าบัตรคนละ 4$ หรือจะนั่งกระเช้าก็ออกเดินไปด้านนอกด้านขวามือ จะมีป้ายบอกเป็นระยะๆ แต่กระเช้าระยะทางสั้นมากเมื่อเทียบกับราคา >^< แปลได้ว่าแพงนั่นเอง แฮร่ 😜 แต่ถ้าใครชอบก็ลองนั่งเปลี่ยนบรรยากาศดูค่ะ

9. Spectra-Light Water Show
เราเดินมาถึงก่อนเวลาแสดงครึ่งชั่วโมง คนยังไม่เยอะก็จับจองหาที่นั่ง ขอหน้าสุดติดโชว์เลยค่ะ สักพักการแสดงชุดใหญ่ แสง สี เสียงมาเต็มรวมถึงละอองน้ำด้วยค่ะ ลมพัดมาด้านที่นั่งเราเต็มๆ คนทะยอยเดินหนีอยู่กางร่มสู้ไม่ไหว ด้วยกลัวจะไม่สบายเลยตัดใจไม่ดูต่อค่ะ 555 ปริมบ่นอยากดูใหญ่ แต่ด้านหลังคนยืนดูเยอะจนมองไม่เห็นค่ะ เสียดายเหมือนกัน ดันเลือกที่นั่งผิด เค้าน่าจะเขียนว่า wet zone ด้วยเนอะ จะได้เตรียมตัวเปียก จริงๆเคยมาดูหลายรอบแต่มาช้าตลอดไม่เคยได้นั่งใกล้ขนาดนี้ เลยไม่มีประสบการณ์ค่ะ
ถ้ามาชมควรเลือกบนสุดค่ะเห็นชัดเหมือนกัน แฮร่ๆ
● แล้วเราก็เดินมาในห้างจะมี Food court อยู่ชั้น B2 ค่ะ ชื่อ Rasapura Masters มีอาหารให้เลือกหลากหลายเชื้อชาติค่ะ ไม่ต้องแย่งกันเลือกร้าน มีเยอะเท่าที่ต้องการ จบที่นี้ที่เดียว อาหารอร่อยไม่แพงมากค่ะ ที่สำคัญพอเราอิ่มสามารถเดินไปชั้นบน B1 ฝั่งเดียวกัน
● ที่มีโซนขายของเด็กค่ะ เป็น Hi-End luxury brand เสื้อผ้า แฟชั่นเด็กสวยๆเพียบค่ะ แต่คอนเซปเราหากิจกรรมสนุกเล่นกับลูก เลยมุ่งตรงไปที่ร้านขายของเล่นที่เดียวชื่อร้าน Hamleys เพราะเวลาน้อย (อันที่จริงคือราคาแพงซื้อไม่ไหวค่ะ
) แล้วต้องรีบเอาเด็กๆเข้านอนเดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นเช้าไม่ไหว (ร้านนี้ของเล่นแปลกๆไม่เหมือนร้านทั่วๆไปพวกของหายากค่ะ
)
📍 โชว์ฟรีไม่เสียค่าเข้าชมค่ะ จัดโชว์ทุกวัน 2 รอบ เวลา 2 ทุ่ม และ 3 ทุ่ม ส่วนวันศุกร์และเสาร์จะเพิ่มรอบ 4 ทุ่ม รวมเป็น 3 รอบ
🚕 โชว์ที่ The shoppes Marina bay sand ฝั่งเดียวกับคาสิโนค่ะ เดินมาที่จุด event plaza (Promenade) ถ้านั่งแท๊กซี่มาลงที่คาสิโนแล้วเดินตรงมาอย่างเดียวอยู่ชั้นเดียวกันค่ะ ถ้ามาด้วย MRT ลงสถานี Bay front ทางออก C,D ขึ้นมาชั้นบน(1) ตรงมาเรื่อยๆ สถานที่โชว์จะเห็น Merlion อยู่ฝั่งตรงข้ามไกลลิบๆ วิวตึกต่างๆเปิดไฟสวยดีค่ะ

10. Science centre singapore ศูนย์วิทยาศาสตร์สิงคโปร์
ที่นี่เป็นศูนย์การเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ เหมาะกับลูกอายุได้ตั้งแต่ 1 ขวบครึ่งขึ้นไปซึ่งเน้นที่ KidsSTOP แต่ถ้าอายุช่วง Preschool จนถึงเด็กโตก็สามารถเข้าชมอื่นๆได้มากขึ้น
โดยที่นี่แบ่งออกเป็น 4 ส่วน คือ ศูนย์วิทยาศาสตร์สิงคโปร์ (Science Centre Singapore) จะเป็นส่วนนิทรรศการถาวรเหมาะกับเด็กจนถึงผู้ใหญ่ที่สนใจ ส่วนที่ 2 คือ ออมนิ เธียเตอร์ (Omni Theatre) เป็นโดมฉายหนังเกี่ยวกับโลกและอวกาศ คล้ายท้องฟ้าจำลองค่ะ ส่วนที่ 3 เป็นสโนว์ ซิตี้ เป็นเมืองหิมะค่ะ ส่วนสุดท้ายที่เราเลือกเข้าคือ KidsSTOP อันนี้ห้ามพลาดสำหรับเด็กเล็กค่ะ เข้าได้ตั้งแต่ 18 เดือนถึง 8 ขวบ จะเปิดเป็นรอบๆตามเวลา เป็นที่เล่น เรียนรู้ มีขุดฟอสซิล ปีนป่ายยานอวกาศ ต่อบล๊อค เกมดิจิตอล เครื่องเล่นต่างๆฝึกสมรรถนะร่างกายและสมอง มีเรียนรู้ธรรมชาติสัตว์ การฟักไข่ ห้องเต้น ต่อเลโก้ เกมวิทยาศาสตร์ และอื่นๆอีกเยอะค่ะ
พอออกมาจาก kidsSTOP จะมีร้านอาหารจีนอร่อยมากค่ะ เด็กๆชอบมาก นอกจากนั้นด้านหน้าจะเป็นสวนเล่นน้ำใหญ่พอสมควร ถ้าต้องการเล่นก็เตรียมชุดมาเปลี่ยนด้วยค่ะ
📍 ค่าเข้าชมและเวลาเปิดทำการตามนี้ค่ะ
● ศูนย์วิทยาศาสตร์สิงคโปร์ (Science Centre Singapore)
เปิด ทุกวัน เวลา 10.00 – 18.00 น. (เปิดให้เข้าชมรอบสุดท้ายเวลา 17.15 น.)
ค่าตั๋ว : ผู้ใหญ่ $12 เด็ก (3-12 ขวบ) $8 ถ้าเข้าชมผีเสื้อด้วยจะเพิ่มอีก $10
● ออมนิเธียเตอร์ (Omni Theatre)
เปิด จันทร์ถึงศุกร์ เวลา 12.00 – 18.00 น. (รอบสุดท้ายเวลา 17.00 น.)
วันเสาร์-อาทิตย์ & วันหยุดราชการ เวลา 12.00 – 19.00 น. (รอบสุดท้ายเวลา 18.00 น.)
ค่าตั๋ว: ผู้ใหญ่ $14 เด็ก (3-12 ขวบ) $14
● สโนว์ซิตี้
เปิด ทุกวัน เวลา 10.00 – 18.00 น. (รอบสุดท้ายเวลา 17.00 น.)
วันหยุดวันหยุดราชการ เวลา 10.00 – 19.00 น. (รอบสุดท้ายเวลา 18.00 น.)
ค่าตั๋ว : ผู้ใหญ่ $18 เด็ก (3-12 ขวบ) $18 ต่อ 1 ชม.
● KidsSTOP
รอบที่ 1 เปิดทุกวัน เวลา 9.30 – 13.30 น. (รอบสุดท้ายเวลา 12.45 น.)
รอบที่ 2 เปิดทุกวัน เวลา 14.00 – 18.00 น. (รอบสุดท้ายเวลา 17.15 น.)
ค่าตั๋ว : ผู้ใหญ่ $10|13 เด็ก (3-12 ขวบ) $20|23 (วันธรรมดา|วันหยุด)
วันปิดทำการจะไม่ตรงกัน ควรเช็คก่อนเข้าชมที่เว็บไซต์ https://www.science.edu.sg
🚕 วิธีการเดินทาง เรานั่งแท๊กซี่ค่ะ สะดวกสุดแล้วค่อนข้างไกลออกนอกตัวเมืองหน่อย
แต่ถ้านั่ง MRT ไม่มีนะคะ ที่ใกล้ที่สุดคือ Jurong East Station (East-West Line and North-South Line) แล้วนั่งบัสสาย 66 หรือ 335 หรือเดินประมาณ 8 นาทีก็จะถึงค่ะ เดินไปทาง Jurong East Street 13 ข้ามถนนเดินตรงไปจนถึงบล๊อค 135 เดินตรงถึงแยก science centre จะอยู่ฝั่งตรงแยกข้ามถนนหัวมุมแยกนั้นค่ะ หากนั่งบัส ใช้สาย 66, 178, 198 and 335

11. Civil Defence Heritage Gallery
● เป็นสถานีดับเพลิงจริงๆ ของกองกำลังป้องกันฝ่ายพลเรือนของสิงคโปร์ (Singapore Civil Defence Force) ซึ่งจะเปิดให้เที่ยวชมกันได้ตามสบายทุกวันเสาร์ ที่นั่นเด็ก ๆ จะมีโอกาสได้เป็นนักผจญเพลิงหนึ่งวัน สามารถขึ้นไปนั่งบนรถดับเพลิง ลองใช้อุปกรณ์ดับเพลิง เช่น ปืนสเปรย์ และได้เรียนรู้วิธีการรูดตัวลงมาตามเสา
📍 เปิดให้เที่ยวฟรีในเวลา 9.00 ถึง 11.00 น.
● หรือเที่ยวชมสถานีดับเพลิงส่วนกลาง (Central Fire Station) ที่ฮิลล์สตรีท จะมีห้องจัดแสดงผลงานของหน่วยงานป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (Civil Defence Heritage Gallery) ที่อยู่ติดกัน มีส่วนจัดแสดงรถบรรทุกดับเพลิงและอุปกรณ์ดับเพลิงเก่า รวมทั้งเกมอินเทอร์แอคทีฟและกิจกรรมน่าสนใจต่าง ๆ ที่ชั้นสอง
📍 เปิดให้บริการเวลา 10.00 ถึง 17.00 น.ทุกวัน เว้นวันจันทร์
🚕 วิธีเดินทางเราใช้ google map ค่ะ พิมพ์ Civil Defence Heritage Gallery อยู่ย่านใจกลางสิงคโปร์เลยค่ะ

12. S.E.A Aquariums
ที่นี่อยู่ในเกาะ sentosa เดินจาก Universal มาทางด้านซ้ายก็จะเห็นป้ายค่ะ ที่สิงคโปร์ทำออกมาดีมากๆ มีอุโมงค์ใต้น้ำลอดยาวมากค่ะ เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก สามารถนำรถเข็นเข้าไปได้สบายๆมีทางให้เข็นตลอดค่ะ สะดวกมากๆ
● ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 34S$ เด็ก 4-12 ขวบ และผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 24S$
📍 เปิด 10.00-19.00 น. ค่ะ



