
ทำไมแม่ถึงสนใจ 𝑺𝒊𝒏𝒈𝒂𝒑𝒐𝒓𝒆 𝒎𝒂𝒕𝒉!! เรียนยากไหมมีคำตอบค่ะ
แม่เคยเกริ่นๆเกี่ยวกับ Singapore math ในบทความที่ตัดสินใจเลือกโรงเรียนหลักสูตรสิงคโปร์ให้ลูก วันนี้ครึ้มอกครึ้มใจมาคุยเรื่องนี้จริงจังบ้างดีกว่าค่ะ เผื่อเป็นข้อมูลให้คุณพ่อคุณแม่ที่มี เป้าหมาย ฝึกลูกให้รักการเรียนรู้ กล้าเผชิญปัญหา มีทักษะการแก้ปัญหาติดตัว จะได้มีตัวเลือกในการเรียนมากขึ้น
จุดที่สะกิดต่อมแม่ให้สนใจใน 𝑺𝒊𝒏𝒈𝒂𝒑𝒐𝒓𝒆 𝒎𝒂𝒕𝒉 คือ “ชื่อเสียง” ซึ่งเป็นที่ยอมรับว่าสามารถสร้างคนที่มีคุณภาพได้จริง ก่อนที่จะมาเป็น “ประเทศสิงคโปร์” อย่างทุกวันนี้ ไม่ใช่จู่ๆก็เจริญมาตั้งแต่ต้นนะคะ เค้าเคยเป็นส่วนหนึ่งของมาเลเซียมาก่อน ดังนั้นคนสิงคโปร์ในอดีตจึงต้องดิ้นรนเพื่อให้ตัวเองมีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น สามารถยืนได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งพาใคร รัฐบาลสิงคโปร์จึงให้ความสำคัญในเรื่องการพัฒนาคุณภาพของประชากรให้มากที่สุด กระทรวงศึกษาธิการสิงคโปร์จึงมี การรวบรวมงานวิจัยทางคณิตศาสตร์ที่เป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก มาออกแบบเป็นหลักสูตร 𝑺𝒊𝒏𝒈𝒂𝒑𝒐𝒓𝒆 𝒎𝒂𝒕𝒉 ขึ้นมาใช้ในการเรียนการสอนสำหรับเด็กประถมภายในประเทศสิงคโปร์ โดยนำวิชาคณิตศาสตร์มาใช้เป็นเครื่องมือในการฝึกคิดแก้ปัญหา พัฒนาความคิดให้เด็กๆสามารถคิดวิเคราะห์เป็น มีเหตุผลและสร้างสรรค์ ที่สำคัญคือปลูกฝังให้รักการเรียนรู้อย่างไม่มีวันสิ้นสุด
ซึ่ง 𝑺𝒊𝒏𝒈𝒂𝒑𝒐𝒓𝒆 𝒎𝒂𝒕𝒉 จะให้ความสำคัญกับทักษะการคิดวิเคราะห์ของเด็กเป็นหลัก ดังนั้นโจทย์คณิตศาสตร์ของสิงคโปร์จะออกแบบมาเพื่อให้คิดหาคำตอบได้หลายวิธีจะไม่ได้เน้นถาม 4+4 = ? แต่จะถามว่า มีตัวเลขชุดไหนที่บวกกันได้ 8 บ้าง เป็นต้น โดยเด็กแต่ละคนอาจได้คำตอบที่ถูกต้องเหมือนกัน แต่จะมีวิธีคิดที่แตกต่างกันออกไป เด็กที่เรียนระบบนี้จะยืดหยุ่น ไม่เอาชนะกันด้วยคำตอบ แต่จะมาถกวิธีการหาคำตอบมากกว่า ซึ่งนี่คือกระบวนการติดเครื่องมือ (Tool) ทางความคิดให้แก่เด็กๆชาวสิงคโปร์ ที่จะเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ ไม่กลัวการแก้ปัญหา รู้จักคิดวิเคราะห์ (𝐂𝐫𝐢𝐭𝐢𝐜𝐚𝐥 𝐓𝐡𝐢𝐧𝐤𝐢𝐧𝐠) สรรหาการแก้ปัญหาหลายๆทางเพื่อให้ได้วิธีที่ดีที่สุด (𝐂𝐫𝐞𝐚𝐭𝐢𝐯𝐞 𝐓𝐡𝐢𝐧𝐤𝐢𝐧𝐠) ฟังดูน่าสนใจนะคะ ถ้าลูกมีทักษะนี้ติดตัวคงจะดีมากๆเลย
แม่ก็อยากเลี้ยงลูกให้หัดคิดวิเคราะห์แก้ปัญหาเป็น เลยคิดว่านี่น่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่จะให้ลูกได้เรียนที่ 𝐒𝐈𝐒𝐁 หรือ โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์กรุงเทพ แคมปัส เชียงใหม่ ซึ่งจะได้เรียน 𝑺𝒊𝒏𝒈𝒂𝒑𝒐𝒓𝒆 𝒎𝒂𝒕𝒉 ในหลักสูตร ช่วงเรียนอนุบาล 4 ปีเค้าก็จะปูพื้นฐานไว้ให้ค่ะ ตอนนี้เราก็เรียนจบ P1 แล้ว แม่พอจะจับประเด็นได้บ้างค่ะว่าสอนอะไรแบบไหน
นั่นคือในการเรียนการสอนวิชาคณิตศาสตร์นี้จะมี 3 ขั้นตอน คือ 𝗖𝗼𝗻𝗰𝗿𝗲𝘁𝗲 𝗣𝗶𝗰𝘁𝗼𝗿𝗶𝗮𝗹 และ 𝗔𝗯𝘀𝘁𝗿𝗮𝗰𝘁𝘀 (หรือ 𝗖𝗣𝗔 𝗔𝗽𝗽𝗿𝗼𝗮𝗰𝗵)
- โดยจะสอนจากรูปธรรม (Concrete) คือ เด็กๆ จับต้องได้ เช่น นับนิ้ว นับกระดุม แท่งบล๊อกอะไรแบบนี้
- จากนั้นเด็กๆจะเรียนการแปลงสิ่งเหล่านี้ไปเป็นภาพ คือ (Pictorial)
- ถัดไปก็จะแปลงเป็นตัวเลขหรือสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ตามมา (Abstracts) โดยการเรียนแบบนี้คือจากพื้นฐานขึ้นไป
ดังนั้นเด็กจะรู้เหตุผลที่มาที่ไปของการคำนวณ (𝑳𝒐𝒈𝒊𝒄𝒂𝒍 𝑻𝒉𝒊𝒏𝒌𝒊𝒏𝒈) ซึ่งเป็นเป้าหมายในการนำคณิตศาสตร์มาเป็นเครื่องมือการเรียนรู้สไตล์สิงคโปร์ ลูกจะไม่รู้สึกว่าโจทย์นั้นยากเพราะมันเริ่มจากสิ่งของที่จับต้องได้ ซึ่งลูกจะยิ่งมีทัศนคติที่ดีกับการเรียนคณิตศาสตร์ไม่ต่อต้าน รักการเรียนจึงเป็นการปูพื้นฐานที่ดีตอนเด็กค่ะ
นอกจากนั้นยังนำทฤษฎีทางคณิตศาสตร์อื่นๆมาเป็นเครื่องมือในการฝึกคิดเช่น Spiral Approach ที่หัวข้อที่ได้เรียนแต่ละระดับชั้นปีจะลึกขึ้นเรื่อยๆ หรือทฤษฎีความหลากหลาย (Theory of Variability) ที่มี Conception variation และ Perceptual variation จะฝึกให้เด็กๆแก้ปัญหาโจทย์ด้วยวิธีที่หลากหลาย เพิ่มทักษะการคิดแก้ปัญหาเป็นต้น



แม่เคยเปิดหนังสือของลูกดู จะไม่ค่อยมีตัวเลขเลยค่ะ เป็นรูปภาพ ตัวอักษรและคำถามซะมากกว่า ซึ่งต่างกับวิชาเลขที่แม่เคยเจอ
ปีนี้ยังมีใช้อุปกรณ์ที่เป็น Concrete มาช่วยในการเรียนอยู่ เช่น พวกลูกปัด บล็อค แม่เหล็ก แต่พวก Pictorial คือเยอะขึ้น แต่แน่นอนว่าถ้าอ่านภาษาไม่ได้ อ่านโจทย์ไม่เข้าใจนี่ไปไม่เป็นเลยค่ะ เพราะนอกจากฝึกบวกลบเลขก็ต้องฝึกวิเคราะห์โจทย์ให้เป็นด้วย ปีนี้ลูกเรียนคณิตศาสตร์แบบกว้างๆที่เจอในชีวิตประจำวัน เช่น เรื่องการนับ เงิน เวลา สิ่งของ การวัด การเปรียบเทียบ
ถ้ารูปทรงก็จะเป็นสิ่งของรูปทรงต่างๆที่เด็กๆคุ้นเคย คือ เป็นอะไรที่ลูกนึกภาพออก พอเป็นของใกล้ตัวมันเลยดูง่ายไปหมด จึงไม่ได้มีอุปสรรคอะไรในการเรียนเลยค่ะ เรียนสนุกๆสบายๆ การบ้านก็แทบไม่มี ทัศนคติกับวิชานี้คือบวกมากๆๆๆ ลูกชอบและสนุกกับการไปเรียน บางทีโรงเรียนก็จะมีกิจกรรมสนุกๆ อย่างล่าสุดคือ ตลาดนัดขนมที่โรงเรียน มีบางห้องรับบทเป็นคนขาย บางห้องเป็นคนซื้อ จะได้ฝึกคำนวณเงินเป็นค่ะ ทั้งสนุกทั้งอร่อยแถมขายถูกกว่าท้องตลาด อยากไปเหมากลับบ้านมาก 555+ แต่ครูให้เอาไปไม่เกิน 50 บาทค่ะ แถมแฝดกลายเป็นแข่งกันใครเหลือเงินกลับบ้านเยอะกว่ากันไปอีก ก็เรียนแบบสนุกกันไปค่ะ


แต่ที่สำคัญคือใจแม่นี้แหละค่ะ ที่ต้องใจเย็นๆอดทนรอคอย แม่ว่าการเรียน 𝑺𝒊𝒏𝒈𝒂𝒑𝒐𝒓𝒆 𝒎𝒂𝒕𝒉 คือ การปลูกฝังวิธีการคิดวิเคราะห์มากกว่าเร่งหาคำตอบเร็ว ไว ซึ่งจะคนละแนวกับหลักสูตรคณิตศาสตร์แบบอื่นๆ มาแข่งตอบปุ๊บปั๊บนี่ไม่ได้ค่ะ ดังนั้นเรียนไปจะไม่เห็นผลทันที ซึ่งจำเป็นต้องใช้เวลาในการรดน้ำพรวนดินสักระยะ แต่ถ้าฝึกแล้วลูกมีทักษะการคิดวิเคราะห์เป็น มีเหตุผล มีความคิดสร้างสรรค์และยืดหยุ่นไม่กลัวที่จะเจอปัญหา พร้อมสู้ชีวิต!!! น่าจะเป็นอะไรที่ดีในการเติบโตเป็นผู้ใหญ่บนโลกที่ไร้พรมแดนใบนี้ค่ะ










