
เกริ่นก่อน แบบว่าก็ไม่ใช่หมอ ใช้ภาษาชาวบ้าน ไม่เน้นศัพท์เทคนิควิชาการ เอาแบบเข้าใจง่าย อันไหนที่พลาดแย้งได้ค่ะ
เขียนไว้ใน Facebook ส่วนตัวนานละค่ะ เป็นบันทึกเล่าเรื่องราวประสบการณ์สำหรับขั้นตอนการทำเด็กหลอดแก้ว หรือ ivf ที่มักจะมีคนมาปรึกษาตลอด ในการประสบผลสำเร็จในการมีลูกด้วยเทคโนโลยี ประกอบกับเคยบนไว้ด้วยว่าจะเขียนเพื่อให้เป็นข้อมูลสำหรับหลายๆคนที่มีปัญหามีลูกยาก ในเวปขอปรับเปลี่ยนสำนวนต่างจากในเฟสหน่อยค่ะ เผื่อเพื่อนคนไม่รู้จักอ่านเดี๋ยวไม่เข้าใจว่าอันไหนล้อเล่น ฮาๆ
ในร่างกายผู้หญิงมีรังไข่ ภายในมีไข่เล็กๆมากมาย ปกติไข่สุกเดือนละฟอง สลับกันซ้าย-ขวา พร้อมๆกับการสร้างผนังมดลูก ☺️ ถ้าไข่มีโอกาสผสมกับอสุจิ ใช่ว่าจะมีลูกได้เลย ต้องเดินทางไปฝังตัวที่ผนังมดลูกผ่านท่อรังไข่อีก ถ้าสำเร็จก็จะกลายเป็นเบบี๋ให้เราชื่นชม ถ้าไม่สำเร็จผนังก็สลายตัวเป็นเลือดประจำเดือน…ตามที่เคยเรียนสมัยเด็กๆ
สำหรับเรา…ย้อนไปสมัยเด็กเริ่มมีประจำเดือนก็มาไม่สม่ำเสมอ มาทีไรก็ปวดท้องจนเป็นลม พอเริ่มอยากมีลูกก็คิดว่ามันน่าจะง่ายๆนะ แค่ xxx กันปรากฏว่า ประจำเดือนหายไป 3 เดือน ว๊าวววว 😍 ได้ผลแน่แถมมีอาการเวียนหัว คลื่นไส้ อยากกินของเปรี้ยว อิอิ ไปเหมาที่ตรวจครรภ์ ตรวจ 20+ รอบได้ ขึ้นขีดเดียวตลอด😅 เลยคิดว่า ตรวจไม่เป็น ประจำเดือนไม่มามันต้องท้องสิ ตัดสินใจไปหาหมอดีกว่า… นี่เลยเป็นจุดเริ่มต้นของการปรึกษาการมีบุตรยาก และเริ่มเรียนรู้เทคโนโลยีการรักษามีบุตรยาก
อันดับแรกหมอก็ตรวจว่าท้องไหม ใช้แบบที่หาซื้อได้ตามร้านขายยานั่นแหละ 😓 แล้วก็ตรวจภายใน หมอแจ้งว่า มีพังผืดนิดหน่อย มีระยะเริ่มของช๊อกโกแลตซีส คือมันไม่เรียบเป็นตะปุ่มตะปั่ม เลยให้ฮอร์โมนมากินถ้ากินหมดประจำเดือนจะมา หลังจากนั้นหมอให้กินยากระตุ้นไข่ชื่อว่า clomid แล้วนัดมา ultrasound เพื่อดูขนาดไข่กับวัดความหนาผนังมดลูกแล้วกำหนดวัน xxx กับสามีให้ 😆
3 เดือนผ่านไป (ทำไป 3 รอบ) ไม่มีวี่แววท้องเลย ไข่ก็ออกจะสวยงามใบโต อาการคนท้องนี่ก็มาครบค่ะ สันนิษฐานว่ามาจากยาที่กินและการมโนคิดไปเอง ฮาๆ หมอเลยเพิ่มปริมาณยาขึ้นให้ไข่ใบโตอีก คราวนี้ได้ 2 ใบโตเลย มั่นใจมากขึ้น แต่สุดท้ายก็ผิดหวังอีกละ
เริ่มเดือนที่ 6 (ผ่านมา 6 ครั้ง) ไม่ไหวละ ยาที่กินไปทรมานนะ ท้องอืด เวียนหัว ผนังมดลูกบางอีก เลยปรึกษาหมอว่าทำไมไม่ได้สักที เลยได้ย้ายไปที่กุลพัฒน์ ที่นี้มีอาจารย์หมอหลายท่านให้เลือก ได้รักษากับอาจารย์โอภาส ก่อนหน้าจะเข้ารักษาก็หาข้อมูลจากใน google ก่อน เตรียมตัวไว้ เคยได้ยินแต่ทำกิฟๆ มันคืออะไรล่ะ
การรักษาขั้นแรกคือต้องตรวจก่อนว่าสาเหตุมาจากไหน ชายหรือหญิง ตรวจเลือดก่อนตั้งครรภ์ วิธีปัจจุบันที่นิยมทำคือ
1.ผสมเทียม เค้าเรียก iui หลักๆคือกินยากระตุ้นไข่เหมือนเคย ให้ได้ 1 ฟองโตๆ นัด u/s ดูไข่ ฉีดยาให้ไข่ตก เก็บอสุจิจากสามีมาปั่น ไม่ต้อง xxx กันเองละ หมอจะใส่อสุจิเข้าไปให้ทางช่องคลอดให้เลย วิธีนี้ต้องแน่ใจว่าท่อนำไข่ฝ่ายหญิงต้องไม่ตัน เราต้องไปฉีดสีดูว่าท่อนำไข่ตันรึเปล่า … ถ้าตันข้ามไปทำข้อ 2 เลยจ้า
2.เด็กหลอดแก้ว มี 2 แบบ ivf กับ icsi คล้ายกันคือกระตุ้นไข่ให้ได้เยอะๆ เก็บไข่ออกมาข้างนอกผ่านช่องคลอด เอามาผสมกับอสุจิภายนอกร่างกายในห้องแลป 2 วิธีนี้ต่างกันตรง ivf ไข่กับอสุจิผสมกันเองแล้วแต่ดวง ถ้าผู้ชายไม่มีปัญหาจะใช้วิธีนี้ แต่ icsi จะเลือกอสุจิที่แข็งแรง 1 ตัวเจาะเข้าไปในไข่ให้เลย วิธีนี้สำหรับเชื้ออสุจิที่ไม่แข็งแรง มีน้อย หางขาด ว่ายน้ำไม่เก่งไรทำนองนี้คือผู้ชายมีปัญหา อีกอย่างคือถ้าผู้ชายไม่มีอสุจิในน้ำเชื้ออาจต้องเจาะเอาอสุจิจากอัณฑะออกมา พอผสมกันแล้วจะเลี้ยงต่อข้างนอก 3-5 วันแล้วใส่กลับเข้าไปในร่างกายผู้หญิงเพื่อให้ฝังตัวเป็นเบบี๋ 😊 ฟังดูง่ายๆเนอะ
ส่วนทำกิฟคล้ายๆเด็กหลอดแก้ว แต่ทำผ่านการผ่าตัดหน้าท้อง เจ็บตัวมากกว่า สมัยนี้เลยไม่มีใครทำกัน
สรุปว่ากรณีเราต้องทำ ivf ก็เดาออกละว่าปัญหามาจากใคร คิคิ
- เริ่มต้น…ต้องกระตุ้นไข่ให้ได้เยอะๆ เก็บไข่ทีเดียวคุ้ม แต่ถ้าใช้ยากระตุ้นมากไปมีผลข้างเคียง ร่างกายก็ไม่ไหว ก็เอาพอดีๆตามหมอสั่งหล่ะ เริ่มฉีดยาหลังจากมีประจำเดือนวันที่ 2 เป้าหมาย 10-12 ฟอง ได้ฉีด 175 ui ฉีดยาแบบเข็มปากกาจิ้มพุงตัวเองทุกวัน พอวันที่ 3 ต้องมาตรวจเลือดดูระดับฮอร์โมนว่าปริมาณยาที่ฉีดเหมาะสมไหม จากนั้นก็ติดตามขนาดไข่ว่าโตไหมมีกี่ฟองโดยการ u/s ผ่านช่องคลอด
- ระหว่างนั้นก็ฉีดยากันไข่ตกไปด้วย สรุปช่วงนี้ฉีดทุกวัน วันละ 2 เข็ม (ไข่บางฟองก็เริ่มโต บางฟองก็โตมากพร้อมหลุดตก ระหว่างรอไข่ใบเล็กโตเลยต้องฉีดไม่ให้เสียใบใหญ่ไป) นอกจากนั้นก็ตรวจผนังมดลูกว่าหนาพร้อมฝังตัวไหมด้วย พอจำนวน/ขนาดไข่โอเคละ ก็ฉีดยาให้ไข่ตก เข็มนี้สำคัญมาก เวลาฉีดต้องเป๊ะกับที่หมอนัด พลาดไม่ได้ 36 ชม. หลังฉีดเข็มนี้ ไข่จะตกและนัดเก็บไข่ที่รพ.พอดีค่ะ
- วันเก็บไข่ เข้าห้องผ่าตัด ห้ามแต่งหน้า สามีเตรียมอสุจิมาส่งด้วย เข้าห้องผ่าตัดพอได้ฉีดยาสลบก็ไม่รู้สึกตัว รู้ตัวอีกทีผ่านไป 1.30 ชม. เก็บไวเหมือนกัน ระหว่างนอนพักฟื้นก็มีคนมาเก็บพร้อมกันเพียบ คนอายุเยอะได้ 3-4 ใบเอง ส่วนเราได้มาเพียบดีใจมาก ^^ วันรุ่งขึ้นพยาบาลโทรมาแจ้งว่าผสมได้ตัวอ่อนกี่ตัว อ้าว!!! นึกว่าจะได้ตามจำนวนไข่ที่เก็บได้ซะอีก😢 ไข่ที่ผสมแล้วฝ่อมีตั้ง 4 ใบเสียดายจัง
ทั่วไปจะเลี้ยงให้ถึงระยะบลาสต์ คือ 5 วันแต่บางคนตัวอ่อนไม่แข็งแรงมีโอกาสตายก็จะเลี้ยงแค่ 3 วัน กว่าจะถึงวันที่ 5 ตัวอ่อนก็ตายลง ลดจำนวนไปอีก แง๊แง ว่าที่ลูกลดลงเรื่อยๆ
- วันที่ 5 นัดใส่ตัวอ่อน ตื่นเต้นจังเค้าถ่ายรูปตัวอ่อนให้ดูด้วย หน้าตาลูกเป็นงี้เอง อิอิ หมอถามว่าจะใส่กี่ตัวเพราะตัวอ่อนสวยมาก ถ้าใส่เยอะจะมีโอกาสเสี่ยงท้องแฝด หมอไม่อยากให้ติดแฝดเพราะทางการแพทย์ถือว่าผิดปกติ อันตรายมาก แต่ก็เลือกใส่ 2 ตัวเผื่อไว้โอกาสจะได้เยอะขึ้น ไม่อยากเริ่มต้นนับ 1 ใหม่
- ระหว่างรอผล 14 วันนี้แหละสำคัญที่สุด บางตำราก็บอกนอนนิ่งๆไม่ขยับตัวเลยบางคนก็บอกใช้ชีวิตปกติ บางคนก็บอกให้กินโน้นกินนี่ ครั้งแรกเลือกนอนนิ่งๆ 3 วันจากนั้นไปทำงานปกติ ผลคือ…ไม่ติดไม่เป็นไร ลองอีกรอบ มีตัวอ่อนเยอะ ครั้งนี้ไม่ต้องฉีดยาไม่ต้องเก็บไข่ค่อยสบายหน่อย แต่… ทรมานเหมือนเดิมต้องกินยาสอดยาที่เป็นฮอร์โมน เวียนหัว ท้องอืด คลื่นไส้ แต่ก็อดทนอ่ะ ครั้งนี้ใส่ 2 ตัวอ่อนเหมือนเดิม ถึงเวลานัดตรวจเลือดค่า hCG ต่ำกว่า 10 ตามเคย อาการท้อแท้ผิดหวังมาจนเครียด 😢 ไม่ติดสักทีครั้งที่ 3 พักไป 5 เดือนรอฟิตร่างกายแข็งแรง ไม่เครียดค่อยกลับมาใส่ (ระหว่างนี้ตัวอ่อนลดลงเรื่อยๆ เพราะตอนนัดใส่จะเอาออกมาละลาย ที่ตายในขั้นตอนละลายก็มี ใส่แล้วไม่ติดก็สลายตัวไปก็มี)
- ครั้งนี้จะขอใส่ 3 เลยจะได้มีโอกาสเพิ่มขึ้น ปรากฏสามีไม่อนุญาต หมอก็กลัวติด 3 สรุปใส่ไป 2 เหมือนเคย คราวนี้นอนนิ่งๆ 5 วันและสอดยาลึกๆสุดปลายนิ้ว (ก่อนหน้านี้กลัวยาไปชนลูกแต่ถามหมอละ หมอบอกสอดยังไงก็ไม่ถึงหรอก) ปรากฏว่าเวิร์ค แอบตรวจได้ 2 ขีดตั้งแต่วันที่ 7 หลังย้ายตัวอ่อน พอวันที่ 10 นัดเจาะเลือดได้ hCG 200 กว่าๆ กริ๊ดดดดด ท้องแล้ว ระหว่างนั้นก็เหมาที่ตรวจมาตรวจเป็นสิบๆอันแบบว่ารอมานานไม่เคยเห็นสองขีด ฮาๆๆๆ วันที่ 14 อาการแพ้ท้องเริ่มมา ทำไมมันไวจังวุ้ย สามีบอกกระแดะ 555 สรุปว่าได้แฝดฮอร์โมนเลยเยอะ ทำให้แพ้ท้องไวกว่าชาวบ้าน ดีใจมากๆ ตอนที่รู้ว่าท้องแล้ว รวมเวลาเกือบ 2 ปีกว่าจะได้เบบี๋ // ไม่คิดเหมือนกันว่าจะมีวันนี้ วันที่มีลูกได้ มองหน้าลูกยังนึกนี่เรามีลูกจริงๆเหรอเนี๊ยนี่แค่เริ่มต้นของลูกแฝดนะคะ อุปสรรคการอุ้มท้องแฝดตอนต่อไปค่ะ



