แนวทางการจัดบ้าน

#แนวทางการจัดมุมในบ้านเพื่อการเรียนรู้  🏡 ในการจัดบ้านเพื่อทำกิจกรรมกับลูกนี่ยาวมากค่ะ แบ่งเป็น 3 ส่วนค่ะ

ส่วนที่ 1: โซนห้องเรียนในบ้าน Indoor

ส่วนที่ 2: โซนทำกิจกรรมนอกบ้าน Outdoor

ส่วนที่ 3: โซนงานบ้านและช่วยเหลือตัวเอง

จริงๆหลักการแค่เก็บให้เป็นระเบียบ “หาง่าย หายรู้” ส่วนอื่นๆจัดตามชนิด ประโยชน์ของของเล่นค่ะ เริ่มจัดห้องให้ช่วงลูกเดินได้คล่องค่ะ เพราะหากเดินไม่คล่อง ควรจัดในเล่นในพื้นที่ปลอดภัย Safty Zone หากหยิบเองตู้หรือของล้มทับจะอันตราย แฝดใช้คอกเบาะค่ะ แต่หลังจากปีนออกคอกได้ถึงเริ่มจัดห้องให้

ทฤษฎีการจัดบ้านฉบับ “กิจกรรมคุณแม่เชียงใหม่”

คือการประยุกต์ตำราหลายเล่มรวมกัน กลายเป็นตำเรา 😂 คือเอาที่เหมาะกับลูกและครอบครัวของเรานั่นเอง ปัญหาที่เคยเจอคือแนวการเลี้ยงดูจากคนรอบข้าง ไม่ว่าจะสามี ภรรยา ปู่ย่าตาทวด ให้เอามาบวกลบคูณหาร หาค่าเฉลี่ยแล้วจะพบวิธีเลี้ยงลูกอย่างสงบสุขแค่คิดว่าทุกคนรักลูกของเรา ทุกคนหาวิธีที่ดีที่สุดในมุมของตัวเองมาเลี้ยงแต่อาจไม่ตรงกับใจเราเท่านั้นเองค่ะ

การจัดห้องเรียนหรือมุมการเรียนรู้มีวัตถุประสงค์ คือ เป็นการฝึกให้มีความรับผิดชอบอย่างแรกของเด็กเล็ก นั่นคือ เล่นแล้วรู้จักเก็บที่เดิม… ดังนั้นกฏของห้องนี้ต้องมีค่ะ ก่อนจะเล่นชิ้นใหม่ต้องเก็บของเก่าก่อน ยกเว้นเล่นคละกันด้วยกัน ซึ่งก็มีบ่อยๆค่ะ อย่างเช่นหยิบตุ๊กตาหมา แมว กับชุดคุณหมอมาเล่นด้วยกันสมมติว่าเป็นสัตว์แพทย์ 🙊ผลพลอยได้คือช่วยแบ่งเบางานแม่ด้วยค่ะ

ข้อดีอีกข้อของการจัดห้อง ตามประเภทของเล่น ทำให้แม่สังเกตลูกง่ายขึ้น ว่าลูกเป็นคนลักษณะไหน ชอบอะไร ถนัดอะไร สนใจมุมไหนเป็นพิเศษจะได้สนับสนุนลูกได้ถูกทาง

ห้องที่จัดต้องไม่รก มีของน้อยชิ้น ดังนั้นต้องมีห้องเก็บของอีกห้องไว้คอยเก็บสลับสับเปลี่ยนของเล่น ตามแผนการสอนของแม่ (เนื่องจากช่วงแรกทำ #homeschool ให้ลูกค่ะ เลยต้องมีแผนและเป้าหมายเป็นแนวทางไว้) ดังนั้นห้องจะไม่นิ่งค่ะ เด็กๆจะจำได้เองว่าของอะไรวางตรงไหนเก็บตรงไหน บางทีช่วงเปลี่ยนแรกๆมีมาถามว่าของเล่นอันนี้หายไปไหน

คุณพ่อคุณแม่อาจไม่ต้องจัดเหมือนก็ได้ค่ะ ปรับเอาตามสะดวก แต่ส่วนตัวชอบแนวมอนเตสซอรี่นะคะ ยึดเด็กเป็นหลัก สอนให้ช่วยเหลือตัวเองได้ อยู่กับธรรมชาติ พ่อแม่ทำให้ดูแล้วเด็กจะทำตามค่ะ ทุกอย่างเริ่มที่พ่อแม่นะคะ การจัดห้องแบบนี้สิ่งสำคัญคือเฟอร์นิเจอร์ชั้นวางของที่ต้องไม่สูงมาก ลูกสามารถหยิบเลือกได้เอง

เกริ่นมายาว เริ่มเลยค่ะ


ส่วนที่ 1 : โซนห้องเรียนในบ้าน Indoor เราจะแยกตามประโยชน์ของของเล่นค่ะ

เริ่มจากมุมแรก คือ #มุมหนังสือ ถ้าให้ดีเป็นชั้นวางโชว์ปกจะช่วยดึงดูดให้เด็กๆสนใจหนังสือมากขึ้น เด็กหยิบง่าย เลือกหนังสือที่ชอบได้

แต่เท่าที่ลองจัดคือ ชั้นวางหนังสือโชว์ปกวางได้น้อยมาก สุดท้ายต้องมีตู้หนังสืออยู่ดี คุณพ่อคุณแม่เลือกสลับสับเปลี่ยนหนังสือตามวัย ตามความสนใจได้เลยค่ะ หากมีที่นั่งอ่านหนังสือร่วมกันจะดีมากๆเลยค่ะ ลูกจะรู้ว่าหากมานั่งตรงนี้คืออ่านหนังสือ

มุมต่อไปคือ #บทบาทสมมติ มักจะเป็นตุ๊กตา ชุดของเล่นคุณหมอ คุณครู ช่างเสริมสวย ของแต่งตัวซุปเปอร์ฮีโร่ มีกระจกให้ส่องค่ะ เล่นได้ตั้งแต่ขวบกว่าๆค่ะ

มุมสำคัญอีก #มุมคือแป้งโดว์ ทรายวิทยาศาสตร์ โฟมปั้น ขนฟู(ไม่รู้เรียกอะไรค่ะ) เล่นปั้นอิสระ ฝึกจินตนาการ และกล้ามเนื้อมัดเล็ก ทั้งหมดนี้เป็นการเล่นแบบปลายเปิด ช่วงขวบกว่าๆขึ้นไป ถึง 3 ขวบจะชอบเล่นค่ะ

มุมใกล้เคียงแป้งโดว์อีก #มุมคือตัวต่อ บล็อกไม้ เลโก้ คุณพ่อคุณแม่เลือกขนาดให้เหมาะสมกับเด็กนะคะ ถ้ายังวัยเล็กใช้อันใหญ่ๆจะปลอดภัยกว่าค่ะ เป็นพวก Megablock แล้วพอ 2 ขวบค่อยเป็น Lego Duplo เพราะหากเราเผลอปล่อยลูกลำพัง จะได้ไม่อันตรายค่ะ บริเวณนี้อาจเป็นโต๊ะทำกิจกรรม หรือพื้นกว้างหน่อยค่ะเพราะต้องใช้เนื้อที่ในการเล่น ถ้าโตขึ้นมีหลายชุดอาจใช้กล่องหรือชั้นแยกเป็นเซ็ตก็หาง่ายดีค่ะ

#มุมดนตรี เรียนรู้จังหวะต่างๆ เพลง คาราโอเกะ ไมโครโฟน เปียโนเล็ก กลองชุด เครื่องเคาะจังหวะ ฝึกประสาทหู การฟัง ของเล่นประเภทนี้จัดอยู่ด้วยกัน อันนี้ขึ้นกับคุณพ่อคุณแม่เลยค่ะ

#มุมของจำลอง โมเดลสัตว์ต่างๆ สัตว์ในฟาร์ม สวนสัตว์ สัตว์บก สัตว์น้ำ ไดโนเสาร์ แมลงต่างๆ กล่องจับแมลง แว่นขนาย กล้องส่องทางไกล แล้วแต่สะดวกค่ะ นอกจากนั้นรถจำลอง เครื่องบิน รถไฟ รถขุด รถปูน อยู่มุมนี้ด้วยกันค่ะ

#มุมมิติสัมพันธ์ เรียนรู้รูปทรง สี ตัวเลข รวมถึงพวกตัวอักษร ป้ายโปสเตอร์ การเรียนการสอนทั่วๆไป เช่นพวกห่วงทรงกรวย บล๊อคหยอดรูปทรงต่างๆ ลูกคิด มีเยอะมากค่ะแล้วแต่ที่ซื้อเลยค่ะ

#มุมทักษะพัฒนาสมอง สมาธิ อย่างเช่นร้อยลูกปัด ต่อจิ๊กซอล puzzle Tetris เกมบอร์ด Mandela Tangram การ์ดภาพต่างๆ

#มุมวาดเขียน กระดานแม่เหล็ก โต๊ะวาดเขียน โต๊ะทำกิจกรรม กระดาษ (ซื้อเป็นรีมเลยค่ะ หยิบเองได้ไม่จำกัด) กรรไกร ดินสอสี ที่เจาะกระดาษ ปากกาเมจิค วางให้หยิบใช้ได้เองค่ะ แต่เราต้องสอนการใช้ให้ปลอดภัย ถูกวิธีค่ะ เท่าที่ลอง บ้านนี้ยังไม่เคยเขียนฝาผนังเลอะหรือเลอะเทอะที่ๆไม่ได้จัดให้นะคะ แม้จะวางปากกา สีให้อิสระเสรี

#มุมกิจกรรมพัฒนาร่างกาย บ้านนี้ซื้อที่ปีนป่ายวางบนพื้นให้นุ่ม ปลอดภัยต่อการเล่น ฝึกคลาน ปีน โหน เป็นพื้นที่สำหรับเล่นซนปีนป่าย กระโดด ต้องบริเวณนี้เท่านั้น (เรื่องปีนห้ามลูกไม่ได้ค่ะ เป็นพัฒนาการตามวัย) เราจะไม่ห้ามทำนู้นนี่ค่ะ แต่ต้องทำอย่างปลอดภัยและถูกต้องตามที่สอนค่ะ ดังนั้นการจัดบ้านให้เล่นจึงสำคัญมาก นอกจากเล่นสนุกความปลอดภัยต้องมาอันดับแรกเสมอ

#มุมผลงาน คือขอผนังว่างๆสักด้าน เอามาทำที่โชว์ผลงานของลูก เค้าจะภูมิใจกับงานที่เล่นที่ทำกันมากค่ะ เราสามารถกำหนดธีมในแต่ละสัปดาห์ว่าจะเล่นเรื่องไหนให้สอดคล้องกัน เช่นสอน A ก็มี ทำแอปเปิ้ล วาดรูปมด หัดเขียนA อะไรแบบนี้ให้สอดคล้องกันไป

จริงๆจะให้แยกย่อยอีกจะรายละเอียดเยอะมาก เอาคร่าวๆตามนี้ก็พอค่ะ ถ้าได้เริ่มจัดแล้วจะพบว่าเลี้ยงลูกง่ายขึ้นเยอะเลยค่ะ ช่วยทำให้เราเบาแรง ลูกมีความสุข เราก็พลอยมีความสุขไปด้วยค่ะ


ส่วนที่ 2 : โซนทำกิจกรรมนอกบ้าน Outdoor

#มุมทำกิจกรรม ที่เลอะเทอะ ฝุ่น เปียก โต๊ะที่ใช้จะเป็นพลาสติกค่ะ สามารถใช้น้ำฉีดล้างได้เลย แต่พื้นต้องไม่ลื่น

#มุมก๊อกน้ำล้างมือ จัดไว้สำหรับทำความสะอาดหลังเล่นเลอะเทอะ เด็กๆสามารถปิดเปิดน้ำได้เอง

#มุมเล่นทราย เป็นของเล่นที่มีประโยชน์ค่ะ ของเล่นปลายเปิด สร้างจินตนาการสำหรับเด็ก วิธีเล่นทรายของเด็กมีเยอะมากกกกกก แต่จุดนี้สำคัญคือหลังเล่นเสร็จต้องปิดมิดชิดค่ะ กันสัตว์อันตรายมาอาศัย หลังเล่นเสร็จคุณพ่อคุณแม่ต้องตรวจทุกครั้งค่ะ รวมถึงก่อนเล่นด้วยค่ะ ดังนั้นจะไม่อนุญาตให้เปิดเล่นเอง ถ้าเด็กๆอยากเล่นทรายจะเดินมาให้ช่วยยกฝาเปิดให้ค่ะ

#มุมวาดผนังบ้าน อย่างที่เคยเกริ่นว่าฝาบ้านยังไม่มีรอยขีดเขียน แม้ว่าจะให้ใช้สีต่างๆอย่างอิสระ เพราะเค้ารู้ว่าถ้าอยากเขียนวาดรูปต้องมาเขียนที่บริเวณนี้เท่านั้น ที่บ้านสละฝาบ้านด้านหนึ่งให้ลูกได้เต็มที่กับการวาดค่ะ จัดไว้ด้านนอกบ้าน ทาสีดำให้เป็นกระดานใช้ชอล์ควาดรูป เพราะเกรงเรื่องฝุ่นค่ะ

#มุมปีนป่าย ออกกำลังกาย อันนี้จัดขึ้นอยู่กับแต่ละบ้านค่ะ ว่าจะสะดวกแบบไหน มีต้นไม้แบบไหน บางบ้านมีชิงช้าทำเอง มีปีนป่ายง่ายๆ บ้านต้นไม้ อยากทำบ้างแต่สถานที่ไม่อำนวยค่ะ ^^’ แต่ที่สำคัญเรื่องความปลอดภัยของเด็ก เลือกใช้วัสดุที่ไม่มีอันตรายนะคะ หลีกเลี่ยงสนิมเหล็ก เก็บปลายมีคมของลวด เหล็กต่างๆ


ส่วนที่ 3 : โซนงานบ้านและช่วยเหลือตัวเอง ของแถมนอกจากการเล่น

การจัดบ้านเพื่อช่วยฝึกทักษะการช่วยเหลือตัวเองและรับผิดชอบตัวเองอันนี้ก็ถือเป็นการเล่นชนิดหนึ่งค่ะ แรกๆจะสนุก หลังๆจะเริ่มไม่ยอมทำต้องฝึกกันไปตามวัยค่ะ ผู้ช่วยสำคัญคือ

#กระดานตารางกิจกรรม อันนี้ขึ้นกับเวลาสะดวกของลูกและพ่อแม่ค่ะ เป็นการกำหนดวินัยคร่าวๆ ว่ากิจวัตรประจำวันคืออะไร ส่วนหนึ่งเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนมีนาฬิกาชีวิต หากทำอะไรซ้ำๆเดิมๆ ร่างกายจะรู้เวลาอัตโนมัติค่ะ การต่อต้านจะน้อยลงจากเดิม ทำบ่อยๆให้เกิดความเคยชินค่ะ(ในรูปคือตอนนี้ไป รร. อัพเดตตามช่วงอายุค่ะ รูปเก่าๆสมัยขวบ สองขวบหาไม่เจอค่ะ)

#มุมโต๊ะทานขนม น้ำ อันนี้จัดออกนอกห้องเรียนค่ะ เพราะมีกฎว่าห้ามเอาขนมมาทานในห้องเรียน ซึ่งรักษากฎกันได้ดีนะคะ แต่มีลืมบ้างต้องคอยเตือนค่ะ อยากให้คุณพ่อคุณแม่ให้ความสำคัญกับน้ำดื่ม เนื่องจากน้ำเป็นส่วนประกอบหลักของร่างกายคน เราทราบกันดีว่าต้องทานอาหารที่มีประโยชน์ หาของดีสารพัดมาให้ลูก ดังนั้นการดื่มน้ำเยอะๆจะช่วยพาสารอาหารเหล่านั้นไปสู่สมองลูก โต๊ะนี้จะมีน้ำสะอาดให้ทุกวัน เราสามารถเช็คปริมาณน้ำที่เด็กๆดื่มได้ค่ะ เด็กๆจะเรียนรู้ว่าหากหิวน้ำเมื่อไรสามารถมาดื่มน้ำตรงจุดนี้ได้ตลอดเวลา กระตุ้นพฤติกรรมการดื่มน้ำของลูกกันนะคะ

นอกจากนั้นใต้โต๊ะจะมี #ผ้าขี้ริ้ว ผืนเล็กๆให้เช็ดทำความสะอาด เด็กๆจะเรียนรู้ค่ะว่าถ้าเผลอทำน้ำหก จะต้องหยิบผ้าที่ไหนมาเช็ด แล้วเอาไปเก็บที่ไหน (เด็กเล็กสอนแค่นี้ก่อนค่ะ)

#หาบันไดเตี้ยๆ ให้เด็กๆได้รู้จักล้างมือด้วยตัวเอง ก่อนทาน-หลังทานอาหาร แปรงฟันด้วยตัวเอง(เราก็ต้องช่วยซ้ำค่ะ) ชักโครกเด็ก ไว้ฝึกขับถ่าย ถังเก็บผ้ารอซัก ค่อยๆเพิ่มตามวัยค่ะ

แนวทางการจัดบ้านจะคร่าวๆ(แต่ยาว) ประมาณนี้ค่ะ แค่เริ่มจัด!! คุณพ่อคุณแม่จะรู้เองว่าต้องจัดห้องลูกแบบไหน ประมาณไหน